“มนต์เสน่ห์แห่ง ‘สำรับเครื่องว่าง ๖ รัชกาล’ ตำรับมารีกีมาร์”
การสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเครื่องว่างไทยโบราณที่ร้าน “มารี กีมาร์” เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เพราะแต่ละเมนูล้วนมีประวัติศาสตร์และวิธีการปรุงที่ละเอียดอ่อน มาทำความรู้จักกับอาหารและเครื่องดื่มในสำรับนี้กันค่ะ

1. เครื่องดื่ม
สำหรับประเพณีชาวสยามที่มีมาอย่างยาวนานนั้นคือการนำน้ำนำท่ามาให้แขกแก้วที่มาเยือนเรือน ดังนั้นเครื่องดื่มต้อนรับนี้จึงเป็นหนึ่งในรากวัฒนธรรมชาวสยามนั้นเองค่ะ
เริ่มต้นกันด้วยเครื่องดื่มต้อนรับ ซึ่งมีให้เลือก 2 ชนิด ได้แก่ “มณีจันทร์” และ “ชื่นทิวา”:

- มณีจันทร์ เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้สด น้ำมะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำเชื่อมจากสมุนไพรไทยต่างๆ มีรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น
- ชื่นทิวา เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำสมุนไพร เช่น น้ำใบเตย น้ำตะไคร้ มีรสชาติหอมหวานละมุน

ต่อมาในส่วนของชา ทางร้านแนะนำเป็นชา 2 ชนิดโดยนิยมให้ดื่มคู่กับของกินต่าชนิดกัน
สำหรับชาที่ดื่มคู่กับของคาวป็นชาที่ชื่อ “ชาภุมรินทร์ถวิลหา” หรือ “ชาถวายตัว”:

- ตำรับของหม่อมเจ้าสายลดาวัลย์ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยชาเป็นที่นิยมในราชสำนักสมัยรัชกาลที่ 5
- เป็นชาไทยที่ผสมผสานชาหอมมะลิและชาดอกไม้ ซึ่งชงด้วยน้ำร้อนและเสิร์ฟพร้อมขนมคาวไทยโบราณ
ชาอีกตัวที่ใช้ดื่มคู่กับขนมหวานได้แก่ “มารีกีมาร์ที” หรือ “ชาขนมไทย”:

- ชาสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ผสมผสานชาเขียว ดอกมะลิ ใบเนียม มะตูม และคาโมมายล์ มีรสชาติหอมหวานและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีกลิ่นและรสที่หอมหวานเบา ด้วยความที่ใบเนียมนั้นให้กลิ่นเหมือนใบเตย ทำให้เพียงเราดื่มเข้าไปก็รู้สึกเหมือนกินขนมไทยแล้ว ยิ่งดื่มคู่ไปกับขนมไทยยิ่งเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว
2. เมนูเครื่องว่าง
“กุ้งซ่อนกลิ่น”:

- เมนูนี้มาจากตำราแม่ครัวหัวป่าก์ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรณ์วงศ์ ซึ่งเป็นตำราอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในไทย
- วิธีการปรุง: นำกุ้งสดมาคลุกเคล้ากับสมุนไพรต่างๆ เช่น กระเทียม รากผักชี พริกไทย จากนั้นนำไปสะดุ้งเล็กน้อยให้พอสุกเพื่อปลอดภัยถูกสุขอนามัยและหอม

“สำรับเครื่องว่าง ๖ รัชกาล”:
เมนูอาหารไทยโบราณ: รสชาติประวัติศาสตร์อันล้ำลึก

การได้สัมผัสกับอาหารไทยโบราณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่รสชาติอันยอดเยี่ยม แต่ยังพาเราเดินทางผ่านกาลเวลาสู่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเมนูที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ยาวนาน ทั้งจากวรรณคดีไทยและตำราอาหารโบราณ
1. ค้างคาวเผือก ของว่างสูตรของเจ้าครอกทองอยู่
ประวัติ:
- เจ้าครอกทองอยู่ เพระชายาทองอยู่ เดิมท่านเป็นชาววังสมัยอยุธยา เป็นข้าหลวงสำนักเจ้าฟ้าจันทวดี ได้รับการยกย่องเป็นชายาแห่งการครัวไทย โดยมีสูตรอาหารมากมายที่เป็นเอกลักษณ์
- “ค้างคาวเผือก” เป็นหนึ่งในเมนูของว่างที่ได้รับความนิยมในราชสำนัก

รสชาติและการปรุง:
- ส่วนประกอบหลักคือเผือก ที่นำมาปั้นเป็นก้อนกลม คลุกเคล้ากับกะทิ และน้ำตาล
- เผือกที่ใช้จะต้องเลือกที่มีความนุ่มและหวาน นำมาบดละเอียดแล้วคลุกเคล้ากับกะทิและน้ำตาลจนเข้ากันดี จากนั้นปั้นเป็นก้อนและนำไปนึ่งจนสุก

2. ช่อมาลีไส้ปู ในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน

ประวัติ:
- กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานเป็นบทกวีที่สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น โดยบรรยายถึงความงามและความประณีตของอาหารในราชสำนัก
- “ช่อมาลีไส้ปู” เป็นหนึ่งในเมนูที่ปรากฏในบทกวีนี้
รสชาติและการปรุง:
- ไส้ปูที่ใช้จะเป็นเนื้อปูสด นำมาผัดกับเครื่องปรุงรสเช่น พริก กระเทียม รากผักชี และน้ำมันหอย
- ปั้นไส้ปูเป็นก้อนเล็กๆ ห่อด้วยแป้งใบเตยมัดเป็นรูปดอกมาลีแล้วนึ่งจนสุก
- รสชาติหวานมันและหอมจากใบเตย
3. ปลาแห้งแตงอุลิต จากวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน

ประวัติ:
- “ขุนช้างขุนแผน” เป็นวรรณคดีที่สำคัญของไทยซึ่งมีการกล่าวถึงอาหารหลากหลายเมนู หนึ่งในนั้นคือ “ปลาแห้งแตงอุลิต”
- ปลาแห้งแตงอุลิตเป็นอาหารที่นิยมในสมัยโบราณ ใช้เป็นอาหารว่างหรือทานคู่กับข้าวสวย
รสชาติและการปรุง:
- ปลาแห้งจะถูกนำมาย่างให้หอม แล้วนำมาฉีกเป็นเส้นบางๆ คลุกเคล้ากับน้ำตาลและพริกป่น
- แตงอุลิต (หรือแตงกวา) จะถูกหั่นบางๆ นำมาจัดเรียงคู่กับปลาแห้งที่ปรุงรส
- รสชาติหวานเค็มและหอมจากปลาแห้ง
4. ม้าฮ่อพระนครคีรี กับสัปปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย
ประวัติ:
- “ม้าฮ่อ” เป็นของว่างไทยโบราณที่มีต้นกำเนิดจากพระนครคีรี (เขาวัง) เมืองเพชรบุรี สถานที่เสด็จประพาสสุดโปรด ร 4
- ใช้สัปปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ซึ่งมีรสชาติหวานฉ่ำเป็นส่วนประกอบหลัก
รสชาติและการปรุง:
- เนื้อหมูหรือกุ้งสับละเอียด นำมาผัดกับเครื่องปรุงเช่น หอมแดง พริกไทย และน้ำตาล จนได้รสชาติกลมกล่อม
- นำมาปั้นเป็นก้อนกลมวางบนชิ้นสัปปะรดที่หั่นเป็นทรงหางตั้ง
- รสชาติหวานฉ่ำจากสัปปะรดและกลมกล่อมจากไส้หมูหรือกุ้ง
5. หมี่กรอบพระพุทธเจ้าหลวง

ประวัติ:
- หมี่กรอบเป็นอาหารที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดและเป็นเมนูที่ได้รับอิทธิพลจากการเดินทางไปต่างประเทศของพระองค์
- เป็นหนึ่งในเมนูที่สะท้อนถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมอาหารไทยและตะวันตก

รสชาติและการปรุง:
- เส้นหมี่ที่ใช้จะต้องทอดให้กรอบ หอม
- น้ำซอสที่คลุกเส้นหมี่ทำจากน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำส้มสายชู เพื่อให้ได้รสชาติหวาน เปรี้ยว และกลมกล่อม
- คลุกเคล้ากับเส้นหมี่ที่ทอดจนกรอบแล้ว โรยหน้าด้วยไข่ฝอย ถั่วงอก และใบมะกรูดหั่นฝอย
6. เมี่ยงคำกลีบบัวหลวง

ประวัติ:
- เมี่ยงคำเป็นอาหารว่างไทยโบราณที่มีการผสมผสานสมุนไพรหลากหลายชนิด
- “กลีบบัวหลวง” เป็นการดัดแปลงเมี่ยงคำที่ใช้กลีบบัวหลวงแทนใบชะพลู เพิ่มความสวยงามและหอมกลิ่นดอกบัว
รสชาติและการปรุง:
- ส่วนประกอบหลักของเมี่ยงคำได้แก่ มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง หอมแดง ขิง มะนาว พริกขี้หนู และน้ำเมี่ยง (ทำจากน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก)
- นำส่วนประกอบทั้งหมดมาห่อด้วยกลีบบัวหลวง แล้วราดด้วยน้ำเมี่ยงที่มีรสชาติหวานเค็มและเปรี้ยว

เมนูอาหารไทยโบราณที่กล่าวถึงนี้ ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยและหลากหลาย แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่า การได้ลิ้มลองเมนูเหล่านี้เป็นการเดินทางย้อนเวลา สู่ยุคที่อาหารมีความหมายมากกว่าความอร่อย แต่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างวิถีชีวิตและเรื่องราวของคนในอดีต

3. ของหวานยามบ่าย

ขนมทองมารี:
- ขนมไทยโบราณที่ทำจากไข่แดงและน้ำตาลเคี่ยวจนเหนียว นำมาหยอดเป็นเส้นๆ แล้วพับเป็นรูปสวยงาม
- มีรสชาติหวานหอม ละลายในปาก

ขนมทองเสน่ห์:
- ขนมที่ทำจากไข่แดง นำมาหยอดในน้ำเชื่อมร้อนๆ จนสุก
- มีรูปร่างกลมๆ เหมือนดอกไม้ และมีรสชาติหวานอร่อย
ขนมอาลัวดอกบัว:

- ขนมไทยที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง กะทิ และน้ำตาล
- มีรูปร่างเหมือนดอกบัวและมีสีสันสวยงาม รสชาติหวานหอม
ข้าวเหนียวมะม่วงอันประกอบด้วยขนมมงคล::


- ข้าวเหนียวมูนที่มีกะทิหอม มะม่วงสุกหวาน และถั่วทองคั่วกรอบ
- วิธีการปรุง: นำข้าวเหนียวมาแช่น้ำและนึ่ง จากนั้นคลุกกับน้ำกะทิหวาน เสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุกและถั่วทองคั่ว
- ทองหยิบ: ทำจากไข่แดง น้ำตาล นำมาหยอดในน้ำเชื่อมแล้วพับเป็นรูปดอกไม้
- ทองหยด: ทำจากไข่แดงและน้ำตาล หยอดเป็นหยดน้ำแล้วต้มในน้ำเชื่อม
- ฝอยทอง: ทำจากไข่แดงและน้ำตาล เคี่ยวแล้วนำมาสยายเป็นเส้นๆ
- เม็ดขนุน: ทำจากถั่วเขียวบดผสมน้ำตาล ห่อด้วยไข่แดงแล้วต้มในน้ำเชื่อม

ลิ้มลองความอร่อยได้แล้วตั้งแต่บัดนี้ ที่ร้านมารี กีมาร์ เวลา 14.30 – 16.30 น. ในราคาพิเศษ 1,799++ บาท ที่คุ้มค่าสำหรับการสัมผัสประสบการณ์อาหารไทยโบราณในบรรยากาศที่หรูหราและน่าประทับใจ 🌿

More Information:
090-234-5822
LINE: @marieguimar (https://bit.ly/MarieGuimar)
Website: http://www.marieguimarbkk.com/about/
Kin Review
Kinandleisure.com
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด