Chef : Kim Jin-rae Place : Seoul, South Korea Date : 11 2022
Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A

Brûlée Fire Dining คือชื่อของร้านอาหาร style casual fire dining ร้านใหม่มาแรงประจำกรุงโซล ซึ่งมีความกลิ่นอายอันความโดดเด่น วันนี้ kinandlesiure.com จะขอชวนทุกท่านไปลองกันครับ
ร้าน Brûlée แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Hannam ในกรุง Seoul ซึ่งไม่ใช่ย่านที่โด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนเกาหลีนั้นถือว่าเป็นย่านที่เงียบสงบ และ มีงานศิลปะมากมาย ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายในโซล ถึงแม้จะต้องใช้บัส หรือ รถยนต์ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่าไหร่สำหรับการมาที่แห่งนี้

ตัวร้าน Brûlée เดิมเป็นร้านใหม่ที่ปรับปรุงจากพื้นที่เดิมที่เคยเป็นร้านเนื้อย่างมาก่อน ทำให้รูปใน google map review จะไม่ตรงกับภาพในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้ app NAVER search ชื่อร้านก็จะสะดวกกว่า

โดย location ที่สังเกตได้ว่าถูกตำแหน่งให้ดูว่าเป็นร้านที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้าน bakery ชื่อ Tarine Bakery Seoul สาขา Hannam

โดยเมื่อมาถึงหน้าร้านจะเป็นบันไดให้ขึ้นชั้นสอง อยู่ในซอยไม่ลึกนัก โดนตอนนี้ร้านจะหยุดวันจันทร์และอังคาร ให้บริการวันพุธ ถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 5 PM – 11 PM (Last order 9 PM) ส่วนวันอาทิตย์จะมีมื้อกลางวันเป็นพิเศษในช่วงเวลา 12 PM – 3 PM

การตกแต่งของร้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์นที่เน้นให้เห็น live kitchen อันโดดเด่นตรงกลางร้านและจะมีการปรุงอาหารที่เน้นใช้การเผาไฟทั้งหมด ทำให้ทุก ๆ จานจะมีกลิ่นหอมของถ่านฟืนที่ใช้อบอวลอยู่

โดยลูกค้าก็จะรับประทานอาหารบริเวณโซน counter เป็นส่วนใหญ่ คล้าย ๆ กับ bar ในร้านอาหารโอมากาเสะ ราคาในคอร์สมื้อเย็น ก็ถือว่าราคาไม่แรงเมื่อเทียบกับร้าน fine dining ในกรุงเทพ
จัด 6 coures ในราคาเพียง 100,000 krw แต่มีเงื่อนไขเพียงว่าต้องสั่ง alcohol ร่วมด้วยหนึ่งอย่าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรต้องทดลองอยู่แล้วเพื่อให้มื้อนี้ได้รับอรรถรสสูงสุด ซึ่ง wine list ร้านนี้ก็ถือว่าดีทีเดียว โดยในวันนี้เราได้สั่ง sparkling มาทดลองด้วย


Courses

สำหรับอาหารใน courses ของ Brûlée จะมี concept หลักคือ อาหารทุกจานจะถูกปรุงโดยผ่านความร้อนด้วยไฟ สมชื่อกับคำว่า Brûlée ที่หมายถึงการเผา ส่วนตัวอาหารจะเป็น style european food ที่นำมารวมกับความเป็นเกาหลี ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น ไม่เลี่ยน และ มีรสที่เป็นเอกลักษณ์

Welcome Snack


อาหารเรียกน้ำย่อย ประกอบด้วยอาหาร 3 จาน คือ Kohlrabi Shrimp, Tomato Tofu และ Octopus

จานแรกตัว Kohlrabi หรือ German Turnip เป็นพืชหัวที่ไม่ค่อยได้พบในเมนูของคอร์สไหน มีความกรุบกรอบอันเป็นเอกลักษณ์เชฟได้นำมาฝานบางและให้ห่อเพื่อรับประทานกับซาชิมิกุ้งแดงตัวอวบที่รออยู่ เป็นเมนูที่ให้ความสดชื่นได้ดี

สำหรับจานถัดเป็นไป Tomato Tofu เมนูที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเพราะความอูมามิของน้ำซอสมะเมือเทศและความเย็นสดชื่นของเต้าหู้นั้นลงตัวมาก ๆ


และจานสุดท้ายเป็นเมนูที่จะนำเราเข้าสู่ร้าน Brûlée อย่างแท้จริง เพราะเป็นเมนู specialty ของร้าน เนื้อหนวดปลาหมึกหวานนุ่มลงตัวกับกลิ่นย่างอ่อน ๆ ร้านเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูเด็ดที่คุ้มค่ากับการมาลอง

Appetizer : Calm, Burnt Cream & Cod Carrot
สำหรับ appetizer set แรกจะมาสองจานเป็นเนื้อหอยและครีมในจานสีดำ โดยจะเสิร์ฟเป็นเนื้อหอยนางรมทอดกับแป้งเล็กน้อยให้มีความกรอบของผิวอกรับประทานกับครีมรสเข้มข้น


ส่วนอีกจานเป็นปลาคอดและครีมแครอทในจานสีขาว เนื้อปลามีความมันนุ่มเด้งแสดงถึงความสดใหม่และซอสแครอทที่เคียงก็มีรสชาติหอมหวาน


Appetizer: Spanish Mackerel

สำหรับจานนี้จะเสิร์ฟมาในสไตล์ข้าวอบในกระทะ สไตล์ปาเอญ่า เป็นจานที่เราคิดถึงและอยากจะกลับไปกินมากที่สุด เพราะความหอมของข้าว ปลาแมคเคอเรล และ เนื้อปูที่สอดแทรกนั้นลงตัวเป็นอย่างมาก ข้าวทุกเม็ดกรุบเคลือบด้วยซอสและกลิ่นหอม ๆ ของทะเลและปลา mackerel

Iberico Pluma Squid Ink



———————Detail—————————- <Click Here>
Chicken Leg, Duck breast



———————Detail—————————- <Click Here>
Truffle Pizza



พิซซ่าสดจานเตาถ่ายของร้าน โดยเชฟจะทำให้ดูสด ๆ ตั้งแต่เตรียมแป้ง แต่งหน้า นำเข้าและนำออกมาจากเตาเรียกได้ว่าสร้างบรรยากาศได้ดี สำหรับรสชาติก็ไม่ผิดหวังเพราะมีความเข้มข้นจัดเต็มพร้อมกลิ่นหอมของเตา ซึ่งหน้าของ pizza ก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล


Marshmallow

ของหวานที่ใช้ไฟ ก็ต้องไม่ขาด Marshmallow โดยจะเสิร์ฟ marshmallow มาบนเตาส่วนตัวให้ได้ปิ้งตามความสุกที่ชอบและพอใจ

Crème Brûlée

อีกหนึ่งของหวานที่จะพลาดไม่ได้ ครีมบูเล ที่ตกแต่งหน้สวยงามเป็น honeycomb รูปทรงสวย กระเทาะ honeycomb รับประทานกับเนื้อ Crème Brûlée ที่หวานน้อยมันกำลังดี เป็นของหวานที่จบมื้ออาหาร และบอกความเป็น specialty fire dining and wine bar ของร้าน Brûlée ได้อย่างลงตัว




โดยสรุป สำหรับร้าน Brûlée fire dining and wine bar เป็นหนึ่งใน check in restraurant ทีควรค่ากับการแวะในทริป Seoul สำหรับคนที่ต้องการหาอาหารที่รสชาติอร่อยและราคาอยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่าสมเหตุสมผลมากที่ได้สำหรับอาหาร การบริการ และ คุณภาพของที่ได้รับ ซึ่งทึมงานของ Brûlée ก็ถือว่าน่ารักและเป็นกันเองมาก รับรองได้ว่าจะไม่ผิดหวังครับ

Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
review, รีวิว, seoul, Korea , European cuisine, fine dining, fire dining, wine bar, Kim Jin-rae, tasting menu, Brûlée Fire Dining and wine bar