การเยี่ยมชมพระราชวังคย็องบกในชุดฮันบกทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้มีสีสันและเต็มไปด้วยบรรยากาศยุคโชซอน การได้สวมใส่ชุดกษัตริย์โชซอนสีแดงมีตรามังกรห้าเล็บสีทองเสริมความสง่างามและขลัง
รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในยุคสมัยที่เหล่าราชวงศ์ครองอำนาจ อีกคนหนึ่งใส่ชุดฮันบกสำรับมงกุฎราชกุมารที่เป็นชุดออกประพาสสีน้ำเงิน ตรามังกรสี่เล็บบนชุดสะท้อนความสง่างามตามตำแหน่ง
ทั้งสองชุดเข้ากันดีกับบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและช่วยให้เราได้เข้าเที่ยวชมวังฟรีตามธรรมเนียม นับเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมและทำให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
แต่เราคงต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าภาพในคอลัมน์นี้อาจจะน้อยเพราะภาพอีกส่วนที่ถ่ายด้วยมือถือตอนนี้พยายามกู้กลับมาอยู่เนื่องจากมือถือจีนเมนบอร์ดใช้ไปอยู่ๆก็ระเบิดขึ้นมา
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่พระราชวังคย็องบก (Gyeongbokgung Palace) งดงามที่สุดของปี เมื่อทิวทัศน์ของต้นเมเปิ้ล ต้นหลิว และต้นแปะก๊วยที่รายล้อมวังเปลี่ยนเป็นเฉดสีแดงสด เหลืองทอง และส้ม บรรยากาศของพระราชวังที่เก่าแก่ที่ขนาดใหญ่สุดของราชวงศ์โชซอนนี้ ชวนให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในยุคอดีต
แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบลงบนอาคารไม้สีแดงเข้มสะท้อนศิลปะเกาหลีแบบดั้งเดิม เข้ากันได้ดีกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่อบอุ่น ทำให้การท่องเที่ยวพระราชวังคย็องบกในฤดูกาลนี้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก
ประตูควังฮวามุน (Gwanghwamun Gate)
เริ่มต้นที่ประตูควังฮวามุน (광화문) ซึ่งเป็นประตูหลักของพระราชวังคย็องบก ประตูนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1395 และเป็นทางเข้าที่สร้างขึ้นในยุคแรกๆ ของพระราชวัง นับเป็นประตูที่สำคัญที่สุดในยุคโชซอน ประตูนี้นำพาเข้าสู่บริเวณพระราชวังและเปิดทางให้เห็นทิวเขาบุกฮันซาน (Bugaksan Mountain)
เป็นฉากหลัง ที่ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ภาพประตูโบราณตัดกับสีสันของใบไม้สร้างบรรยากาศงดงามและขลัง ซึ่งผู้มาเยือนมักถ่ายภาพตรงบริเวณนี้เพื่อเก็บความทรงจำ
ศาลาเคียงเฮรุ (Gyeonghoeru Pavilion)
ถัดจากประตูควังฮวามุน เดินเข้าไปไม่ไกลนักจะพบกับศาลาเคียงเฮรุ (경회루) ศาลาแห่งนี้เป็นศาลากลางน้ำที่งดงาม ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยงและงานสำคัญของราชวงศ์โชซอน ตัวศาลาตั้งอยู่บนเสาของศาลาระหว่างบึงน้ำใหญ่ รอบบึงน้ำนี้รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วยที่เริ่มเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
เงาสะท้อนของศาลาลงบนผิวน้ำสีฟ้าใสช่วยเสริมความงามของศาลาเคียงเฮรุให้โดดเด่น ผู้มาเยือนมักนั่งชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและศาลาจากมุมนี้ เพราะความงดงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมผสานกันอย่างลงตัว
พระที่นั่งคึนจองจอน (Geunjeongjeon Hall)
พระที่นั่งคึนจองจอน (근정전) ถือเป็นอาคารสำคัญที่สุดในพระราชวังคย็องบก เป็นที่ประทับของกษัตริย์และเป็นที่จัดพิธีการสำคัญ ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์เกาหลีโบราณที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่ประณีต ความโดดเด่นของพระที่นั่งนี้อยู่ที่โครงสร้างไม้และหลังคาที่มีความสูงใหญ่และซับซ้อน
ยิ่งเมื่ออยู่ท่ามกลางบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีสันของใบไม้รอบๆ ทำให้พระที่นั่งยิ่งโดดเด่นและสง่างาม บริเวณลานกว้างหน้าพระที่นั่งมีทหารยามในเครื่องแต่งกายโบราณที่เพิ่มความสมจริงให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในยุคโชซอน
ศาลากลางน้ำฮยางวอนจอง (Hyangwonjeong Pavilion)
ศาลากลางน้ำฮยางวอนจอง (향원정) เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของพระราชวังคย็องบกที่มีความงดงามแตกต่างจากจุดอื่นๆ ศาลาเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่กลางสระน้ำซึ่งสามารถเดินข้ามสะพานไม้สีแดงไปได้ ในฤดูใบไม้ร่วง บริเวณนี้จะถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีแดงสดและเหลืองทอง เป็นทัศนียภาพที่งดงามและเงียบสงบ บรรยากาศรอบศาลาฮยางวอนจองนี้ช่วยเสริมให้ผู้มาเยือนรู้สึกสงบและผ่อนคลาย การได้เดินข้ามสะพานไม้สู่ศาลากลางน้ำในบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ
พระตำหนักคย็องฮวยรูและสวนลับ (Huwon Garden)
เดินลึกเข้าไปอีก ผู้มาเยือนจะพบพระตำหนักคย็องฮวยรู ซึ่งมีสวนลับที่แวดล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่และปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง สวนลับนี้เป็นพื้นที่ที่กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ใช้พักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ
มีบ่อปลาและศาลาน้อยๆ สำหรับการนั่งชื่นชมธรรมชาติ ใบไม้สีสันสดใสในสวนลับที่สะท้อนในน้ำบ่อทำให้ภาพรวมของสวนลับดูงดงามราวกับอยู่ในภาพวาดเก่าแก่ การเดินชมสวนลับในฤดูใบไม้ร่วงทำให้รู้สึกผ่อนคลายและซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติและความเป็นประวัติศาสตร์ของเกาหลี
เมื่อเดินลึกเข้าไปในพระราชวังคย็องบก ยังมีหมู่อาคารและสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจอยู่ด้านหลังวัง หนึ่งในนั้นคือเจดีย์สูงที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น
แสดงถึงความศรัทธาทางศาสนาพุทธและความปรารถนาของราชวงศ์ในการสร้างที่พักสงบทางจิตวิญญาณ เจดีย์นี้สะท้อนถึงความเชื่อในโชคลาภและการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ผู้มาเยือนสามารถเดินชมเจดีย์และสัมผัสถึงศิลปะการก่อสร้างที่ผสมผสานความศรัทธาและความงดงามได้อย่างลงตัว
นอกจากเจดีย์แล้ว ยังมีรูปปั้นหินของ 12 นักษัตรที่ตั้งเรียงรายในบริเวณสวนใกล้เคียง รูปปั้นแต่ละชิ้นแกะสลักเป็นสัตว์ประจำปีนักษัตร ได้แก่ หนู วัว เสือ กระต่าย มังกร งู ม้า แพะ ลิง ไก่ หมา และหมู โดยแต่ละตัวมีรูปลักษณ์ที่สง่างามและแสดงถึงเอกลักษณ์ของสัตว์แต่ละชนิด
รูปปั้นเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ปกป้องและเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่พระราชวังในอดีต ซึ่งตามความเชื่อในวัฒนธรรมเกาหลี สัตว์แต่ละตัวมีบทบาทในการปกป้องและเพิ่มพูนความเจริญรุ่งเรือง การได้เห็นรูปปั้นหิน 12 นักษัตรเหล่านี้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ยิ่งเพิ่มความขลังและความอบอุ่นของบรรยากาศโบราณที่โอบล้อมรอบวัง
สรุปความประทับใจ
การเดินชมพระราชวังคย็องบกในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นประสบการณ์ที่ต้องมาเยือนสักครั้ง บรรยากาศของพระราชวังที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ผสานกับสถาปัตยกรรมอันวิจิตรทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์โชซอน และยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีผ่านสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมแห่งนี้ หากมีโอกาสควรลองสวมชุดฮันบกและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รับรองว่าจะได้ภาพที่งดงามและทรงคุณค่า
เกร็ดประวัติศาสตร์การฟื้นคืนของพระราชวัง
พระราชวังคย็องบก ซึ่งถือเป็นพระราชวังที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของราชวงศ์โชซอน ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของเกาหลีในยุคนั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศของชาวเกาหลี แต่ในประวัติศาสตร์ช่วงปลาย คย็องบกกลับต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมเมื่อถูกกองทัพญี่ปุ่นทำลายลงอย่างโหดเหี้ยม
ในยุคที่ญี่ปุ่นขยายอำนาจเหนือเกาหลี โดยเฉพาะช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังคย็องบกถูกเผาและทำลายอย่างย่ำแย่ อาคารหลายส่วนถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก อีกทั้งพื้นที่ของวังถูกยึดเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของการปกครองญี่ปุ่น รวมถึงอาคารรัฐบาลอาณานิคมที่ถูกสร้างขึ้นอย่างใหญ่โตตรงกลางพระราชวัง เพื่อประกาศอำนาจและลดทอนศักดิ์ศรีของราชวงศ์และชาวเกาหลี โดยการยึดครองและทำลายนี้นับเป็นการแสดงออกถึงการเหยียบย่ำวัฒนธรรมเกาหลีอย่างไร้ความเมตตา
หนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียอันยิ่งใหญ่และกลายเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่ฝังใจชาวเกาหลีคือ การสังหารจักรพรรดินีมิน (Empress Myeongseong หรือ Queen Min) ในปี 1895 จักรพรรดินีมินทรงมีบทบาทสำคัญในการต่อต้านการครอบงำของญี่ปุ่นและส่งเสริมความเป็นอิสระของเกาหลี การที่พระนางทรงต่อต้านอย่างแน่วแน่ ทำให้ทรงตกเป็นเป้าหมายของญี่ปุ่นที่ต้องการล้มล้างอำนาจและส่งเสริมการยึดครองของพวกเขา จนท้ายที่สุดจักรพรรดินีมินก็ถูกลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในพระราชวังคย็องบก นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่ทิ้งรอยแผลลึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี
ในช่วงหลังสงคราม พระราชวังคย็องบกได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่ แม้จะผ่านการทำลายและสูญเสียอย่างโหดร้าย พระราชวังแห่งนี้กลับถูกฟื้นฟูให้กลับมาเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งและความเป็นอิสระของเกาหลีในปัจจุบัน การเดินชมคย็องบกในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากจะได้สัมผัสถึงความงดงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรม ยังทำให้เราได้เข้าใจถึงเรื่องราวที่แฝงอยู่ในกำแพงอันเก่าแก่ ความทรงจำแห่งความเจ็บปวด ความยืนหยัด และจิตวิญญาณชนเกาหลีแห่งการฟื้นคืน
Trip Review
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด