สวัสดีท่านผู้หลงใหลในศาสตร์และศิลป์แห่งอาหารทุกท่าน! วันนี้ ทีมงาน Kinandleisure ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับโอมากาเสะที่แสนพิเศษ! แต่เดี๋ยวก่อน—นี่ไม่ใช่โอมากาเสะธรรมดา เพราะเราขอนำเสนอ “Homura Wagyu Omakase” ศิลปะแห่งการปรุงเนื้อวากิวระดับตำนานที่ผสมผสานเทคนิคญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับความประณีตของเชฟผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าท่านจะเป็นสายเนื้อผู้เชี่ยวชาญ หรือนักชิมมือใหม่ที่กำลังตามหารสชาติใหม่ บอกเลยว่าที่นี่จะทำให้ท่านต้องร้องว้าวตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย!
บรรยากาศสุดพิเศษที่เปรียบเสมือนมื้ออาหารในบ้านเชฟ
เมื่อท่านมาถึง Homura Wagyu Omakase บนถนนเย็นอากาศ บ้านทาวน์โฮมหลังงามที่ตกแต่งด้วยโทนสีหินอ่อนแบบญี่ปุ่นทันสมัย จะทำให้ท่านรู้สึกราวกับได้เดินทางเข้าสู่บ้านส่วนตัวของเชฟ ทุกอย่างที่นี่ออกแบบมาเพื่อมอบความรู้สึกอบอุ่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูและเป็นกันเอง
ก้าวแรกที่ท่านเปิดประตูเข้าสู่ร้าน ความเงียบสงบและกลิ่นอายญี่ปุ่นจะต้อนรับท่านอย่างนุ่มนวล โต๊ะรับประทานอาหารแบบเคาน์เตอร์ไม้สีอ่อนเรียบเนียนถูกจัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถัน เป็นจุดศูนย์กลางของร้านที่ดึงดูดสายตา ผนังสีเข้มตัดกับแสงไฟอบอุ่น สร้างความรู้สึกเหมือนท่านได้เข้าสู่โลกแห่งความลึกลับและมหัศจรรย์
ดื่มด่ำไปกับศิลปะการปรุงเนื้อวากิวระดับพรีเมียม
ไฮไลต์ของร้านนี้อยู่ที่ เตาถ่านบินโจตัน ซึ่งเป็นเคล็ดลับการย่างเนื้อที่ทำให้กลิ่นหอมของวากิวอบอวลไปทั่วทั้งร้าน เชฟจะปรุงทุกจานต่อหน้าท่าน พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละวัตถุดิบอย่างตั้งใจ—ทุกคำคือบทสนทนา ทุกกลิ่นคือบทกวีแห่งอาหารที่แต่งแต้มด้วยความหลงใหลของเชฟ
เนื้อวากิวเกรด A4 ที่นี่ได้รับการคัดสรรมาอย่างประณีต ย่างจนได้ระดับความสุกที่สมบูรณ์แบบ เนื้อชุ่มฉ่ำที่แทบละลายในปากนั้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมไหม้ที่แตะจมูก เสริมด้วยซอสสูตรพิเศษที่ผสมผสานรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมจนยากจะลืม
ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ด้วยความเป็นโอมากาเสะแบบส่วนตัว Homura Wagyu Omakase รับลูกค้าในจำนวนจำกัดเพื่อให้ทุกท่านได้รับความใส่ใจอย่างเต็มที่ ที่นี่จึงเหมาะทั้งสำหรับมื้ออาหารส่วนตัว การหารือธุรกิจ หรือแม้แต่การจัดเลี้ยงรับรองแบบใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความสง่างาม
หากท่านกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นมากกว่ามื้ออาหาร Homura Wagyu Omakase พร้อมพาท่านออกเดินทางสู่โลกแห่งเนื้อวากิวและศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นอันล้ำลึก ที่นี่ไม่ใช่เพียงร้านอาหาร แต่เป็นเวทีแห่งความทรงจำที่ท่านจะไม่มีวันลืม
ไม่ว่าท่านจะเป็นสายกิน สายเนื้อ หรือสายชิล—Homura Wagyu Omakase จะทำให้ท่านประทับใจจนต้องรีบจองโต๊ะในครั้งต่อไปแน่นอน!
อาหารและเมนู
หัวใจสำคัญของ Homura Wagyu Omakase คือการนำเข้าเนื้อวากิวเกรด A5 จากเมืองโยเนซาวะ จังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในแหล่งผลิตเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เนื้อทุกชิ้นผ่านการดูแลอย่างประณีตโดยไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่และรสชาติที่แท้จริง
ทางร้านมี 2 คอร์สให้เลือก คือ Standard Course (4,800++ บาท): รวมเมนูประมาณ 10 จาน และ Premium Course (6,800++ บาท): เพิ่มเติมด้วยวัตถุดิบที่หายากและเมนูสุดพิเศษ รวม 14+1 จาน (มีไวน์ หรือสาเกแพร์ริ่งแยกต่างหาก) ซึ่งขอแนะนำให้ทุกท่านในลองสัมผัสกับพรีเมียมคอร์ส เพื่อที่จะได้พบกับรสสัมผัสสุดหายากและน่าค้นหาจากเวทย์มนต์แห่งเนื้อวากิว โดยในวันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสสัมผัสกับ Standard Course ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าสุดยอดมาก ๆ จนอยากมาลองสัมผัสกับ Premium Course อย่างจริงจังสักครั้งเลย โดยต้องขอบอกว่าไม่ว่าคอร์สใดทางห้องอาหารนี้ก็พร้อมมอบประสบการณ์อันแสนพิเศษที่หาได้ยากในไทย เป็นโอมากาเสะขนานแท้ที่ทำให้เราได้รู้สึก “ว้าว” กับทุกจาน ทุกคำ และทุกรสสัมผัส โดยจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปรับชมไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
ขอเกริ่นก่อนว่า ทางร้านจะมีการเสิร์ฟเมนูต่าง ๆ แบบไคเซกิ (Kaiseki) โดยจะเป็นรูปแบบการเสิร์ฟอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีการเสิร์ฟอาหารเป็นชุด ๆ เรียงลำดับไปเรื่อย ๆ โดยมีการคำนึงทั้งในส่วนของขนาด รสชาติ ตลอดจนความหนักท้องของอาหารจานต่าง ๆ เพื่อสรรสร้างประสบการณ์การรับประทานที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ทั้งรสชาติ ความงาม และความสมดุลของอาหาร ซึ่งโดยปกติก็จะมีเป็นจานเรียกน้ำย่อย ซุป จานอบหรือย่าง จานต้ม ข้าว และตามด้วยของหวานปิดท้าย ซึ่งเนื่องจากร้านนี้มีการนำเสนออาหารจานเนื้อเป็นหลัก จึงมีการปรับลำดับและรสชาติอาหารในรูปแบบที่รู้ใจผู้ทาน คือมีหนักเบาร้อนเย็นสลับกันไปเพื่อให้เกิดความสมดุล ซึ่งเป็นความใส่ใจในการจัดคอร์สอาหารที่น่าประทับใจอย่างมากครับ
พบกับสุดยอดเนื้อ ผลผลิตแห่งเมืองโยเนซาวะ
ทางร้านจะมีการใช้ Yonezawa Wagyu ซึ่งเป็นเนื้อในเกรด A5 โดยเป็นหนึ่งในเนื้อวัวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดของเนื้อวัวญี่ปุ่น เป็นผลผลิตมาจากเมืองโยเนซาวะ (Yonezawa) ในจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งที่เนื้อมีความมันแทรกในผิวหนังอยู่ในระดับสูงแบบนี้ เพราะเหล่าน้องวัวทั้งหลายถูกเลี้ยงในพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และได้รับอาหารคุณภาพสูงจากธัญพืชต่างๆ ทั้งข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี หญ้าที่ปลูกในท้องถิ่น ประกอบกับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่เนื้อวัวจากจังหวัดนี้มีชื่อเสียงเก่าแก่ยาวนาน ด้วยจุดเด่นของรสชาติที่เข้มข้นนุ่มลึก ไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อช่วยให้เนื้อนุ่มละมุนถึงขั้นที่ว่าสามารถ “ละลายในปาก” และยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันในวงการอาหารระดับโลกว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเนื้อวากิวชั้นนำของโลก และเป็นผลผลิตอันเป็นที่ชื่นชอบของเหล่ายอดเชฟจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
เห็ดนาเมโกะ
นอกจากเนื้อวากิวอันเป็นจุดขายหลักแล้ว ทางร้านอาหารยังพร้อมภูมิใจเสนอ เห็ดนาเมโกะ ที่มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่มีสีทองมันเงางาม รสชาติ และเนื้อสัมผัส โดยทำมาเป็นซุปก็จะได้รสชาติอูมามิแบบชัดเจน ทำมาทานก็จะได้รสสัมผัสที่มีความเหนียวหนึบเล็กน้อยประกอบกับกลิ่นเห็ดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย
Standard Coruse (ที่ขอบอกว่าเปี่ยมคุณภาพ)
มาเริ่มกันที่คอร์สอาหาร โดยทางทีมงานได้ทดลองทานในเซ็ต Standard Coruse ที่ทำให้ทีมงานได้ทราบถึงมาตรฐานของที่นี่ ที่มีมาตรฐานระดับสูงมาก ทั้งในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบ การคิดสร้างสรรค์ แม้กระทั่งการบริการ และที่สำคัญ คือโอมากาเสะที่นี่ เป็นโอมากาเสะที่ ท่านมาทานแล้วจะอิ่มท้องกลับไปอย่างแน่นอน เพราะเหตุใดและเมนูอะไรบ้าง เราไปชมกันเลยครับ
Kombujime Wagyu with Homura Oscietra Caviar
เปิดตัวกันอย่างน่าตื่นตา เด้วยการจับคู่เนื้อวากิวกับคอมบุ (สาหร่าย) เสริมรสอูมามิ เติมด้านบนไปด้วยคาเวียร์ Oscietra Caviar อันเป็นผลผลิตจากปลาสเตอร์เจียน มีสีดำงดงาม และคุณภาพในระดับ Royal สมชื่อเพราะมีความหายากและมีราคาสูง ซึ่งตัวคาเวียร์เป็นองค์ประกอบเสริมสำคัญที่ช่วยเพิ่มรสชาติเค็มนุ่มนวลและความหรูหราในจานเปิดนี้
เพิ่มเติมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ หรือที่เรียกทับศัพท์กันอย่างติดปากว่า Extra Virgin Olive Oil จากแบรนด์ Lorenzo ผลิตจากพันธ์มะกอก Nocellara del Belice ของแคว้นซิซิลีในอิตาลี มีความหอมและมันช่วยเพิ่มความสมดุลและความมันวาวสวยงาม ด้านล่างเป็นแคนตาลูปฉ่ำๆ ช่วยเพิ่มความสมดุล เติมความหวานกลมกล่อมเบา ๆ ให้กับจานเรียกน้ำย่อยนี้
Aka Miso Wagyu
สานต่อความ “ว้าว” ด้วยเมนู Aka Miso Wagyu ที่มีจุดเด่นตามชื่อ คือการใช้มิโสะแดง (Aka Miso) ในการเพิ่มความเข้มข้นและมิติความนุ่มลึกให้กับรสชาติ ตัวซอสมีทั้งรสชาติหวาน เค็ม และกลิ่นหอมตามแบบฉบับเฉพาะตัว ในขณะที่เนื้อวากิวได้ทำเสิร์ฟในระดับที่สามารถรักษาความชุ่มฉ่ำและรสชาติความหวานหอมแบบธรรมชาติจากตัวเนื้อได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่ายอดวัตถุดิบเคียงคู่กับยอดเชฟ ตัดเป็นชิ้นบางพอดีคำ ตัวเนื้อมีความนุ่มละมุนทุกสัมผัส และเพิ่มความกรุบกรอบด้วยตัวผักเกล็ดหิมะ ซึ่งเหมือนเป็นผู้ประสานสมดุลของรสชาติเข้าด้วยกัน ประกอบกับรสสัมผัสที่กรุบกรอบและความเย็นน้อยๆ อย่างเหมาะสม เพิ่มความสวยงามด้วยดอกไม้ทำให้เป็นจานที่ครบถ้วนทั้งรสสัมผัส รูปลักษณ์ และกลิ่นหอม ในขณะที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
Cold Somen
เป็นโซเม็งจานเย็นที่เปรียบเสมือนเป็นจานเรียกความสดชื่นระหว่างมื้อ เป็นโซเม็งที่ทานได้อย่างคล่องคอและสร้างความรู้สึกสดชื่น ประกอบด้วยเส้นโซเม็งที่มีขนาดเล็กและบาง มีความนุ่มและล้างด้วยน้ำเย็นเพื่อรักษาความสดและความเหนียวแน่นของตัวเส้น ในขณะที่ตัวซูยุ หรือน้ำซุป เป็นซุปใสที่ให้รสชาติความอูมามิอย่างชัดเจน
ประกอบกับรสชาติจากส้มยูสุที่ให้ทั้งความหอมสดชื่นและความเปรี้ยวหวานที่เป็นเอกลักษณ์ หั่นแว่นตกแต่งด้านบนด้วยมะนาว โปรยด้วยดอกชิโสะ หรือ ฮานะมูจิโสะ เป็นดอกไม้สีม่วงสดใส ให้ทั้งกลิ่นที่คล้าย ๆ กับใบชิโสะ และเพิ่มความสวยงามในโทนความสดชื่นให้กับอาหาร
Sukiyaki Kansai Style
เป็นหนึ่งในจานเด่นที่สะท้อนถึงรสชาติและวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยสุกี้สไตล์คันไซนั้นจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากสุกี้ยากี้สไตล์คันโตด้วยเทคนิคการปรุงที่เน้นความสดของวัตถุดิบ รสชาติที่เรียบง่ายแต่นุ่มลึก เน้นการปรุงแบบแห้ง แล้วปรุงด้วยซอสหวาน เป็นการใช้ซอสในการเคลือบเนื้อเพื่อเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟพร้อมไข่แดงสดญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นน้ำจิ้มเนื้อ เพิ่มรถสัมผัสและความนุ่มเนียนจากตัวไข่แดง รวมถึงตัวผักและเครื่องเคียงต่าง ๆ จากผักตามฤดูกาล เช่น ผักชีหรือเห็ดไมตาเกะ ประกอบกับพระเอกของงานคือเนื้อวากิวที่ปรุงสุกในระดับที่สามารถเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด คือเนื้อยังออกสีชมพู แต่สุกรับประทานได้ มีทั้งความชุ่มฉ่ำของเนื้อและความหอมจากศิลปะการใช้ไฟ เป็นจานที่ผมชื่นชอบมากจานหนึ่งครับ
Binchotan Shabu
สัมผัสมื้อชาบูสุดพิเศษ ที่เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหราด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างเนื้อวากิวชั้นดี เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปสูตรพิเศษที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้รสชาติกลมกล่อมในแบบญี่ปุ่นแท้ๆ การปรุงเนื้อวากิวในชาบูเน้นการสะดุ้งในน้ำซุปร้อนจัดเพียงไม่กี่วินาที เพื่อคงความฉ่ำและรสหวานธรรมชาติของเนื้อไว้ทุกคำ
น้ำซุปที่ใช้ในชาบูได้รับการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น ดาชิจากปลาแห้งและสาหร่ายคอมบุ ที่ช่วยเพิ่มรสอูมามิอย่างล้ำลึก เมื่อเนื้อวากิวสัมผัสกับน้ำซุปร้อนๆ กลิ่นหอมของเนื้อจะยิ่งชัดเจนขึ้น พร้อมกับรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น เมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มพอนสึหรือซอสงา กลายเป็นมื้ออาหารที่ลงตัวและน่าจดจำ
Binchotan หรือถ่านไม้คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ใช้ในขั้นตอนการปรุงชาบูโดยตรง แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศอันหรูหราและอบอุ่นของร้าน เป็นการสะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานที่สมบูรณ์แบบ!
Wagyu katsu Sando (Add-on)
เป็นเมนู Add-on สุดพิเศษ แซนด์วิชเนื้อ Add-on สุดพิเศษ
จานนี้เป็นเมนูเสริมที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าประทับใจจนอยากสั่งเพิ่มอีกจานแน่นอน เริ่มต้นด้วย เนื้อวากิวชิ้นใหญ่ ที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจนได้ระดับความสุกที่เหมาะสม เนื้อมีความฉ่ำและนุ่มละมุนละลายในปาก ถูกประกบด้วย ขนมปังบริยอช (Brioche) ที่อบจนได้เนื้อสัมผัสฟูนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเนยที่ช่วยเพิ่มมิติความอร่อยให้กับจานนี้
ความพิเศษของจานนี้อยู่ที่ซอส 2 ชนิดที่รังสรรค์มาอย่างลงตัว ซอสแรกคือ เลมอนซาบายอง (Lemon Sabayon Sauce) ที่มีรสเปรี้ยวสดชื่นพร้อมเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ให้ความรู้สึกเบาสบายลิ้นและช่วยตัดเลี่ยนจากเนื้อได้อย่างลงตัว ซอสที่สองคือ ซอสบราวน์สูตรพิเศษ (Special Brown Sauce) ที่มีรสชาติเข้มข้น ออกหวานเค็มกลมกล่อม เข้ากับความหอมมันของเนื้อวากิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อกัดคำแรก คุณจะได้สัมผัสถึงความนุ่มละมุนของขนมปังบริยอชที่กระทบกับเนื้อวากิวฉ่ำลิ้น ตามมาด้วยรสชาติที่ผสานกันระหว่างความสดชื่นของเลมอนซาบายองและความลึกซึ้งของซอสบราวน์ ทุกรสสัมผัสทั้งหวาน เปรี้ยว มัน เค็ม รวมกันอย่างลงตัว ราวกับมีการแสดงประสาทสัมผัสในทุกคำ
เมนูนี้ไม่เพียงแค่เป็นอาหารจานหนึ่ง แต่เป็นการนำเสนอศิลปะการปรุงอาหารที่ผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสได้อย่างไร้ที่ติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความอร่อยในระดับที่เกินความคาดหมาย!
Wagyu Tongue Stew
สตูว์วากิว เสิร์ฟในส่วนของโคนลิ้น พร้อม ๆ กับตัวมันบดที่อยู่ด้านล่าง ราดเดมิกลาสซอสและมีน้ำมันพริกเล็กน้อยช่วยเพิ่มความหอม เป็นการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศสมาในคอร์สอาหารญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
โดยโคนลิ้นนับเป็นวัตถุดิบพิเศษที่โดดเด่นในด้านเนื้อสัมผัสและรสชาติที่มีความนุ่มละมุน ประกอบกับการเคี่ยวจนได้ที่ และความเข้มข้นของเดมิกลาสซอส ทำให้เป็นอาหารที่น่าสัมผัสอย่างยิ่ง โดยสามารถทานคู่กับมันบดด้านล่างที่เนียนนุ่ม
Mini Steak
เนื้อวากิวเสิร์ฟในรูปแบบสเต๊กชิ้นเล็ก ย่างจนได้ความสุกที่สมบูรณ์แบบ เผยให้เห็นถึงความชุ่มฉ่ำและรสชาติของวากิว A5 อย่างแท้จริง จิ้มกับเกลือและพริกไทย วาซาบิที่ผสมกับวาซาบิดอง และไข่แดง และมีกระเทียมกรอบเป็นเครื่องเคียง โดยการจิ้ม เชฟแนะนำให้เริ่มจากเกลือก่อน แล้วตามด้วยวาซาบิ และปิดท้ายด้วยไข่แดง ซึ่งขอบอกว่าเป็นหนึ่งในจานที่ผมชอบที่สุดเช่นกัน ส่วนตัวชอบตอนจิ้มกับวาซาบิมากเป็นพิเศษ เนื่องจากตัววาซาบิช่วยเสริมความสมดุลให้เกิดขึ้นในเนื้อ ประกอบกับรสสัมผัสที่หลงเหลือจากการจิ้มเกลือนทางตอนแรกทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสุขอย่างพิเศษ ในขณะที่ตัวเนื้อได้ถูกนำไปอย่างจนออกมาในระดับมีเดียมแรร์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นอาหารจานที่ทานเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเมื่อทานหมดแล้วใจยังอยากขอทานเพิ่มเลยครับ
Wagyu Consomme
ซุปใสแบบฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในซุปที่มีความซับซ้อนและพิถีพิถันที่สุด มีทั้งความใส สะอาด และรสชาติที่ลุ่มลึก ซึ่งได้มาจากกระบวนการปรุงที่ละเอียดอ่อนและใช้เวลานาน โดยในคอร์สนี้ใช้สำหรับเป็น Cleansing palette ล้างรสเนื้อ เริ่มจากเนื้อห้ากิโล และน้ำสิบลิตร เคี่ยวนานถึงสองวันแล้วกรองจนเป็นซุปใส ปรุงรสด้วยเกลือกับเลมอน ได้รสชาติที่ลุ่มลึก ได้รสชา เป็นจานที่ช่วยปรับสมดุลและเติมเต็มประสบการณ์อาหาร
Black Wagyu Curry
ข้าวแกงกะหรี่เนื้อวากิว โดยข้าวจะเป็นข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari Rice) จากจังหวัดนิงาตะ เป็นพื้นที่ราบ โดยข้าวจะได้รับน้ำจากน้ำแข็งภูเขาที่ละลาย และการหุงข้าวโดยที่ไม่ล้างเนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด และทำให้ได้รสสัมผัสที่ออกเหนียวด้วย ทานพร้อมกับแกงกระหรี่รสชาติเข้มข้น ทานพร้อมผักกาดดองและไชเท้าดอง และซุปมิโสะข้าวโพดหวาน รสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิบท้องถิ่น และมีจุนไซ คือหน่ออ่อนของพืชน้ำที่ห่อหุ้มด้วยเมือกใสตามธรรมชาติ
เป็นเหมือนเม็ดเยลลี่ธรรมชาติที่ให้รสสัมผัสหนุบหนับน่าประทับใจ ในขณะที่จุดเด่นของแกงกระหรี่จานนี้ นอกจากในเรื่องรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบแล้ว คือการที่สามารถเติมได้ไม่อั้น ดั่งที่บอกไปตอนแรกว่า
คอร์สโอมากาเสะของที่นี่ ต้องอิ่มกลับบ้านแน่นอน โดยทานสามารถทานได้อย่างอิ่มหนำสำราญ ก่อนจะไปพบกับของหวานปิดท้ายอันน่าประทับใจ
Yuzu Granita
เป็นเมนูของหวานที่สดชื่นและเบาสบาย ซึ่งใช้ส่วนผสมหลักคือส้มยูซุที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากญี่ปุ่น นำมาปรุงเป็นกรานิต้า (Granita) หรือเกล็ดน้ำแข็งที่ละเอียดนุ่ม เพิ่มเติมความน่าประทับใจด้วยยูซูเจลลี่ด้านบนที่จะมีรสชาติหวานเปรี้ยวมากกว่า โดยเมื่อทานคู่กันจะเป็นการปิดมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบสร้างความสดใสและช่วยรีเซ็ตรสชาติในปาก และเป็นการประทับประสบการณ์อันน่าประทับใจในมื้ออาหารอันแสนพิเศษนี้
จบกันไปแล้วสำหรับมื้ออาหารสุดน่าประทับใจนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประสบการณ์แสนพิเศษแห่งปีจริง ๆ โดยห้องอาหารให้ทั้งความรู้สึกเป็นส่วนตัวและองค์ประกอบต่าง ๆ ล้วนสร้างความเพลิดเพลินให้กับมื้ออาหาร ทั้งกระบวนการประกอบอาหารของเชฟที่ทำให้เราได้เห็นช็อตการทำอาหารแบบสด ๆ และสามารถพูดคุยกับเชฟได้อย่างเป็นกันเอง
มื้ออาหารที่เสิร์ฟได้อย่างต่อเนื่องไม่ทิ้งช่วง ทำให้เป็นประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและไม่ขาดตอน การจัดคอร์สทำมาอย่างมีความพิถีพิถันและใส่ใจกับผู้ทานเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขอบอกว่านี่เป็นเพียงคอร์สมาตรฐานเริ่มต้นเท่านั้น โดยถ้าเป็นคอร์ส Premium หรือคอร์สเมนูพิเศษประจำเทศกาลต่าง ๆ ก็สามารถการันตีได้จากมาตรฐานที่ทำไว้สูงว่า เมื่อท่านได้ทำการจองและมาลิ้มลองอาหารที่นี่แล้ว ท่านจะติดใจทั้งในรสชาติเนื้อและประสบการณ์อาหารแบบโอมากาเสะอย่างแน่นอนครับ
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถติดต่อจองได้ที่ Facebook Page Homura Wagyu Omakase หรือผ่าน Line @homurawagyu.bkk หรือสามารถโทรติดต่อจองหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 099-532-3264 โดยขอแจ้งว่าร้านนี้รับเฉพาะลูกค้าที่จองก่อนแล้วเท่านั้นครับ โดยราคา เริ่มต้นจาก Standard Course (4,800++ บาท) และ Premium Course (6,800++ บาท) นอกจากนี้ยังมีคอร์สพิเศษอื่นๆ สามารถติดตามได้จากเพจร้านครับ
Kin Review
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด