ข้าวแช่ “คลายร้อน” สำรับฤดูร้อนจากสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
Story : Pitsinee A. / Photo : Pol.Capt. Kittin A

เครื่องจรดฤดู… รสแห่งวัง ความละเมียดแห่งใจ



ในโมงยามแห่งฤดูร้อนที่อากาศรุ่มร้อนแทบทุกช่วงเวลา หากได้ลิ้มรส “ข้าวแช่” สักสำรับก็ประหนึ่งได้รับความเย็นชื่นใจรินรดตั้งแต่ปลายลิ้นจรดหัวใจ สำรับข้าวแช่จึงเปรียบได้กับงานศิลป์แห่งรสชาติที่ต้องใช้ทั้งกาลเวลา ความประณีต และความเข้าใจลึกซึ้งในวัฒนธรรมไทยร่วมรังสรรค์ให้สำเร็จเป็นมื้ออาหารแห่งฤดูร้อนอย่างสมบูรณ์แบบ

โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นำเสนอ “ข้าวแช่ตำรับชาววัง” ประจำฤดูร้อน ปี 2568 ณ ห้องอาหารเฟลอริช โดยเชฟชัชษร ประทุมมา ได้นำองค์ความรู้จากสูตรดั้งเดิมในราชสำนักมาร้อยเรียงกับศาสตร์แห่งกลิ่น รส และศิลป์ร่วมสมัย เพื่อให้ข้าวแช่ชุดนี้มิใช่เพียงแค่ “อาหาร” แต่เป็นประสบการณ์แห่งฤดูร้อนที่สัมผัสได้ในทุกรูปแบบ—ทั้งรส กลิ่น สัมผัส และความทรงจำ

ประวัติศาสตร์แห่งความเย็นในถ้วยข้าว
ข้าวแช่มีต้นกำเนิดจากมอญที่อพยพเข้ามาในแผ่นดินไทยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาถูกดัดแปลงและยกระดับเป็นอาหารชาววังในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยความพิถีพิถันในการปรุงและการจัดสำรับจนกลายเป็นธรรมเนียมที่นิยมเสิร์ฟในฤดูร้อนเพื่อคลายร้อนแก่เจ้านายฝ่ายใน และขยายสู่ประชาชนทั่วไปจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบมาถึงปัจจุบัน

ข้าวแช่ในวันนี้ยังคงอิงรากจากต้นตำรับแต่ปรับให้เข้ากับยุคสมัย โดยไม่ลดทอนความงามในวิธีการและความละเมียดในจิตวิญญาณ
องค์ประกอบแห่งความประณีตในหนึ่งสำรับ
สำรับข้าวแช่ของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ ประกอบด้วยข้าวแช่น้ำอบหอมเย็น และเครื่องเคียงตำรับชาววัง 7 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดล้วนผ่านกรรมวิธีการปรุงที่ซับซ้อน และสะท้อนศิลปะแห่งการปรุงอาหารไทยขั้นสูงได้อย่างลึกซึ้ง

ทุกเมล็ดข้าวล้วนถูกเลือกเฟ้นดั่งอัญมณีแห่งท้องทุ่ง สรรหาจากข้าวหอมมะลิชั้นเลิศ ซึ่งผ่านการหุงด้วยกรรมวิธีแสนพิถีพิถัน จนได้ข้าวที่เรียงเม็ดงามดุจกลีบมะลิแรกแย้ม ขาวใสเป็นมุกเรืองรอง เมื่อสุกแล้วจึงนำไปอบควันเทียนกลิ่นอ่อนละมุน เติมเสน่ห์ให้อวลไปด้วยหอมกรุ่นแผ่วเบา ดั่งกลิ่นความทรงจำของวันวานในเรือนคุณย่า

สำหรับน้ำลอยดอกไม้ซึ่งเป็นดั่งหัวใจของข้าวแช่ เชฟชัชษรเปี่ยมด้วยความละเอียดละออ นำน้ำสะอาดต้มจนเดือด ทิ้งไว้ให้เย็นข้ามคืนปล่อยให้กลิ่นคลอรีนค่อย ๆ ระเหยลอยหายไปกับราตรี ก่อนจะนำดอกไม้หอมทั้งมะลิสดและกลีบกุหลาบมอญที่ล้างสะอาดจนหมดจด ลงลอยในน้ำใสที่เตรียมไว้ แล้วอบควันเทียนจนกลิ่นหอมล้ำราวบทเพลงฤดูร้อนที่บรรเลงในภวังค์ สร้างสัมผัสแห่งความหอมละไม ละมุนใจในทุกหยดเมื่อได้ลิ้มลอง

แต่ละคำของข้าวแช่จะสมบูรณ์มิได้เลย หากไร้เงาของเครื่องเคียงทั้งเจ็ดตำรับ ที่เชฟชัชษรบรรจงรังสรรค์อย่างวิจิตร ประหนึ่งภาพวาดอาหารที่ร่ายด้วยใจ
ลูกกะปิทอด

กะปิชั้นเยี่ยมจากคลองโคลนถูกย่างให้หอมจนกลิ่นทะเลลอยฟุ้ง ผสมเนื้อปลาดุกย่างอย่างพิถีพิถัน โขลกเข้ากับเครื่องเทศสดอย่างกระชาย ตะไคร้ และข่า แล้วปรุงรสจนกลมกล่อม ปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำชุบไข่ทอดจนผิวกรอบเป็นสีทองอร่าม รับประทานคู่กับกระชายซอยบาง เป็นรสสัมผัสที่ปลุกฤทัยให้สดชื่น
หอมแดงไส้ปลายี่สนผัดหวาน

หอมแดงลูกโตสดใสถูกรังสรรค์ให้เป็นภาชนะธรรมชาติ คว้านไส้ออกแล้วสอดไส้ปลายี่สนผัดหวาน—เนื้อปลานำไปต้ม แกะก้างออกอย่างประณีต ผัดกับน้ำตาลโตนดและน้ำมันหอมเจียวจนได้รสหวานนวลละไม แล้วจึงนำหอมแดงไส้นี้ไปชุบแป้งทอดจนกรอบหอม เสมือนช่อดอกไม้สีทองที่อัดแน่นด้วยกลิ่นอายแห่งความละเมียด
พริกหยวกสอดไส้ห่อไข่

พริกหยวกเม็ดโตถูกกรีดอย่างประณีต สอดไส้ด้วยหมูบดและกุ้งสับที่ปรุงรสด้วยรากผักชี กระเทียม และพริกไทยบด ปั้นแน่นให้เต็มคำ แล้วนำไปทอดจนสุกหอม ก่อนห่อด้วยแพไข่ทอดเป็นลายแพรวพรายดั่งผืนผ้าไหมทอง สวยจนแทบไม่อยากตัก
หัวไชโป๊วผัดหวาน

หัวไชโป๊วคุณภาพดีถูกหั่นเป็นเส้นบาง ผัดด้วยไฟอ่อนกับน้ำตาลโตนดและน้ำมันหอมเจียวจนน้ำตาลแห้งเคลือบเนื้อไชโป๊วเป็นประกายใสวาว หอมหวานละมุนคล้ายสายไหมแห่งวัยเยาว์
หมูฝอย / เนื้อฝอย

หมูหรือเนื้อแดดเดียวผ่านการนึ่งจนสุกนุ่ม ก่อนฉีกเป็นเส้นบางแล้วนำไปทอดจนกรอบ ผัดกับน้ำตาลให้เคลือบจนมีประกายแวววาว เสริมกลิ่นหอมด้วยหอมเจียวที่โรยหน้า ดุจสายรุ้งแห่งรสชาติที่ทอดตัวเคียงข้าว
ยำมะม่วงกุ้งเสียบ

ยำรสจัดจ้านที่ผสมผสานระหว่างมะม่วงเขียวเสวย 3 รส และมะม่วงแรดรสเปรี้ยว คลุกเคล้าด้วยน้ำยำสูตรเฉพาะของเชฟ แล้วเติมกุ้งเสียบตัวโตทอดกรอบ จนได้รสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบรส ดั่งบทกวีที่จบลงอย่างไพเราะ
ผักแนม

เสริมสำรับให้สมบูรณ์ด้วยผักสดหลากชนิด ทั้งกระชายสด มะม่วงดิบ และผักตามฤดูกาล ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มสีสันบนจาน หากยังทำหน้าที่ขับรสเครื่องเคียงให้โดดเด่น ยิ่งเคี้ยวยิ่งรู้สึกถึงความกลมกล่อมละเมียดละไม
เชิญท่านร่วมลิ้มรสความวิจิตรของ “สำรับข้าวแช่ตำรับชาววัง” อาหารวิเศษที่เปี่ยมด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ซึ่งได้รับการรังสรรค์อย่างประณีตบรรจงตามครรลองแห่งราชสำนักไทย พร้อมเสิร์ฟด้วยความพิถีพิถัน ณ ห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึง 30 เมษายน พ.ศ. 2568 ระหว่างเวลา 12:00 – 15:00 น. ของทุกวัน
ทางเลือกแห่งการลิ้มลองอันหลากหลาย พร้อมเสิร์ฟด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด
- สำหรับผู้ที่ประสงค์ดื่มด่ำความหอมเย็นในบรรยากาศอันสง่างามของห้องอาหารเฟลอริช สามารถเลือกลิ้มรสได้ในราคาชุดละ 990++ บาท ต่อท่าน
- สำหรับผู้ปรารถนานำสำรับอันเลอค่านี้กลับไปรับประทานอย่างสงบสำราญที่บ้าน ทางโรงแรมจัดเตรียมชุด Takeaway ในราคา 1,290++ บาท ต่อท่าน
- และหากปรารถนาจะมอบเป็นของขวัญอันล้ำค่า หรือนำกลับไปรับประทานอย่างมีสุนทรียรสในทุกมิติ ท่านสามารถเลือกชุด Takeaway ที่บรรจุใน ตะกร้ากระจูดสานสีเขียวดีไซน์เก๋สะดุดตา ในราคาชุดละ 1,900++ บาท ต่อท่าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่
โทรศัพท์: +66 (0) 2 095 9999
อีเมล: [email protected]
หรือเลือกซื้อความประณีตแห่งสำรับข้าวแช่ผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ที่:
🌐 https://www.sindhornkempinskishop.com/vouchers/khao-chae/
✨มอบช่วงเวลาอันรื่นรมย์ในฤดูร้อนนี้ ให้เต็มไปด้วยความละเมียดละไมของรสชาติชาววังที่ยังคงมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย✨
Kin Review
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์