Chef : ฮิโรยูกิ โยโกฮาม่า : 03 2022
Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A
Ki Izakaya
สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ kinlakestars.com จะขอเปลี่ยนบรรยากาศ พาทุกท่านไปร้าน Izakaya เปิดใหม่ที่ต่อไปจะต้องเป็นอีกหนึ่ง destination ยอดฮิตใน กทม. แน่นอน นั่นคือ Ki Izakaya ห้องอาหารญี่ปุ่น สไตล์ Izakaya เปิดใหม่ประจำโรงแรม Kempinski Sindhron
สำหรับร้าน Ki Izakaya แห่งนี้ได้ชื่อจากการผสมคำว่า 気 ที่หมายถึง จิต ใจ อารมณ์ความรู้สึก (mood, spirit) ซึ่งเป็นชื่อร้าน ผสมกับคำที่บอกลักษณะของร้านว่าเป็นแบบ Izakaya 居酒屋 นั้นแปลความหมายจากตัวอักษรคร่าว ๆ ก็หมายถึงร้านนั่งดื่มเหล้านั่นเอง ดังนั้นอาหารก็จะเป็นสไตล์ง่าย ๆ เน้นการกินเล่น รองท้องกับเครื่องดื่ม ซึ่งระดับ Kempinski Sindhorn ก็ได้เตรียมเมนูน่าสนใจเอาไว้มากมาย
Design
สำหรับ การตกแต่งร้านแห่งนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี ตกแต่งแบบ Japanese contemporary ที่ใส่ความเป็น Izakaya ด้วยสีสันที่สดใส แดง เหลือง น้ำเงิน พร้อมวัสดุไม้ และ การที่ตัวร้านตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ทำให้ได้รับแสงสีส้มเข้มยามเย็น ได้บรรยากาศการของการเลิกงาน การพักผ่อนเป็นอย่างดี
นอกจากนั้นเมื่อแสงอาทิตย์ค่อย ๆ น้อยลงไฟในตัวร้านก็จะโดดเด่นขึ้นเป็น warm light สลัว ที่ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหาร Izakaya ริมทางในญี่ปุ่น พร้อมเสียงเคล้ากับบรรยากาศในร้านที่จัดการเรื่อง ambient ได้ค่อนข้างดี เรียกได้ว่าเป็นร้านที่นั่งเพลินครับ สำหรับที่นั่งก็มีให้เลือกทั้งแบบ counter bar, โต๊ะยาว หรือ โต๊ะแบบครอบครัว
นอกจากเครื่องดื่มสุดพิเศษแล้วนั้น เชฟฮิโรยูกิ โยโกฮาม่า เชฟประจำห้องอาหารคิ อิซากายะ ยังได้รังสรรค์เมนูอาหารสูตรดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น อาหารทานเล่น (edamame) เมนูซุป (dashimaki)
เมนูปิ้งย่างเสียบไม้ (yakitori) รวมถึงเมนูพิเศษอย่าง เมนูหม้อร้อนเนื้อวากิวและปูม้าที่น้ำซุปทำจากนมถั่วเหลืองฮอกไกโด (Hokkaido Soy Milk Hot Pot with Wagyu beef and Blue Swimmer Crab) ไว้ให้คุณได้ลิ้มลอง
เชฟฮิโรยูกิ โยโกฮาม่า ได้นำประสบการณ์ที่ได้จากร้านอาหารที่ได้ร่วมงานมาจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศฝรั่งเศส ประเทศเวียดนาม และประเทศออสเตรเลีย มาประยุกต์ปรุงแต่งความเป็นเมนูสไตล์ญี่ปุ่นให้เข้ากับเมนูสไตล์ตะวันตกจนได้เป็นเมนูพิเศษที่ดีต่อสุขภาพสำหรับแขกห้องอาหาร “คิ อิซากายะ” โดยเฉพาะ
Menu
Beverages
สำหรับร้าน Izakya menu ตัวชูโรงก็ต้องเริ่มจากเมนูประเภทเครื่องดื่ม ซึ่ง Ki Izakaya ก็มีเมนูเครื่องดื่ม alcohol ให้เลือกหลายหลาย ไม่ว่าจะเป็น Beer, whisky แบบ Highball, สาเก, เหล้าบ๊วย โชจู ไปจนถึง cocktail และ mocktail เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ทำให้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่ง
สำหรับที่นี่เราก็จะขอแนะนำ Beer, highball และ cocktail ครับ
Beer จะมีให้เลือก Tap beer เป็น Asahi, Sapporo Bussaba หรือแบบขวดก็มีจะมีให้เลือกเน้นของญี่ปุ่นคือ Suruga, หรือ Kirin Malt beer ราคาเริ่มต้นประมาณ 180 บาท
ส่วน Highball เป็นอีกหนึ่ง specialty ของที่นี่ เพราะได้ bartender ที่เชี่ยวชาญการชง highball มาชงให้ครับ base ของ whisky ก็จะใช้เป็นวิสกี้ญี่ปุ่น “Tenjaku” ที่ค่อนข้างนุ่ม มาทำเป็น Classic highball เสิร์ฟ on the rock ราคาอยู่ที่ 280 บาท แต่เราแนะนำตัว G-O clock นะครับ
ส่วน cocktail ที่เราเลือกมาก็คือ Night in Ginza เป็น cocktail เบสชาเขียว รสชาติแปลกใหม่ดีครับ มีความสดชื่่นจาก จิน หรือ ยิน เป็นสุราสีขาวใสบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมจากรากไม้และสมุนไพร กลั่นจากข้าวบาร์เลย์ และข้าวต่าง ๆ มาบดให้เข้ากันแล้วนำไปต้ม หมัก เมื่อหมักได้ปริมาณแอลกอฮอล์ตามต้องการแล้วก็ทำการกลั่นครั้งแรก แล้วกลั่นซ้ำอีกครั้งโดยเติมผลจูนิเปอร์ (Juniper Berry) ลงไปเล็กน้อย ทำให้จินมีความแตกต่างจากสุราทั่วไป
ที่มีความลงตัวระหว่างความดราย (Dry) หรือไม่หวาน กลิ่นสดชื่นของผลจูนิเปอร์ รวมไปถึงสมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 37.5% – 50% นิยมดื่มแบบผสมเป็นค็อกเทลต่าง ๆ สีเขียวสวยสะดุดตาและหอมมีรสเป็นเอกลักษณ์ หวลให้ระลึกถึงญี่ปุ่นจากผงมัชฉะเข้มข้น การผสมผสานที่ลงตัวนี้เปรียบเหมือนชุดกิโมโนประยุกต์กับทรงอาภรณ์แบบตะวันตก
Meal
สำหรับอาหารของที่นี่ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นในเรื่องของรสชาติ และ ความพรีเมียมใน style โรงแรมห้าดาวระดับ Kempinski แต่ราคาไม่แรงอย่างที่คาด โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 95 – 130 บาทเท่านั้นเอง
เริ่มต้น เช็ดมือ โดยการนำผ้าเช็ดมืออัดเม็ดย่อนลงในช่องที่บรรจุน้ำเตรียมเอาไว้
Truffle Edamame (130 บาท)
เมนูประจำ Izakaya เป็นถั่วแระญี่ปุ่น โรยด้วยเกลือ truffle มีความหอมอ่อน ๆ
Eihire Aburi (130 บาท)
จานนี้เรียกได้ว่าคุ้มมากเพราะ เป็น Eihire (ครีบปลากระเบน)ชิ้ นหนาสวย ย่างอุ่น ๆ เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ไม่พอสำหรับจานนี้ ทางผู้เขียนค่อนข้างมีความพึงพอใจเมนูนี้ของที่นี่เป็นกรณีพิเศษ นับว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานทั่วๆไป แนะนำให้รีบกินทันทีที่เสิร์ฟมา เวลากินให้นำไปจิ้มกินคู่กับมายองเนสที่อยู่มุมจาน
Wasabi Shake (160 บาท)
แซลมอนกงฟีต์ ให้ความหวานมันตามสไตล์ที่เป็นเอกลักษ์ของเนื้อปลาแซลมอนที่มีชั้นไขมันแทรกตัวตามเนื้อปลา เสิร์ฟรับประทานกับ wasabi อาจจะเหมาะสำหรับคนที่กินแบบ tartare ไม่ได้ ด้านบนเมนูนี้จะอัดแน่นไปด้วยไข่ปลาแซลมอนหรืออิกุระ ที่เยอะล้นประดุจการเบ่งบานของดอกทานตะวันเต็มทุ่งในฤดูร้อนชายเมืองคาร์โมน่าประเทศสเปน
Croquette Ninniku (150 บาท)
โครเก้มันฝรั่งที่อัดแน่นด้วยรสกระเทียมและหัวหอม เรียกน้ำย่อยได้ดี ลูกกลมๆเล็กๆพอดีคำ ผิวนอกกรอบกรุบที่เต็มไปด้วยเกล็ดขนมปัง เมื่อกัดเข้าไปก็จะพบกับไส้ที่นุ่ม นิ่ม หวานมัน
Satsuma Age (95/pc)
ทอดมันปลาเนื้อแน่น ชิ้นค่อนข้างใหญ่ ปรุงรสแบบญี่ปุ่น ซึ่งทำจากเนื้อปลาขาวนำมาบด ปรุงรสและผสมแป้ง ส่วนผสมไม่แตกต่างจากการทำลูกชิ้นปลาแบบญี่ปุ่น เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ เนียนละเอียด กับรสที่อูมมามินั้นเป็นอีกหนึ่งในของกินเล่นที่อร่อยกินได้เรื่อยๆ
Mentaiko Aburi (220 บาท)
ไข่ปลาเมนไทโกะที่หอมมันเค็มๆ ย่างไฟอุ่น ๆ จานนี้สั่งแล้วอาจจะต้องรีบทานตอนยังร้อนเพื่อให้รสชาติกำลังดี
Burrata (250 บาท)
เมนูชีสบูราตา ที่เสิร์ฟได้แปลกใหม่ดีครับ ไม่น่าเชื่อว่าความหวานหอมนมและน้ำชุบดาชิพร้อมปลาหมึกป่น และมะเขือเทศกินพร้อมกันจะให้รสชาติดีขนาดนี้ เป็นเมนูหนึ่งที่น่าลองครับ
Reba (280 บาท)
ตับไก่ กินพร้อมขนมปังโทสต์ที่นำมาปิ้ง ผิวขนมปังเกรียมๆนิดๆพอมีกลิ่นหอมๆและสัมผัสกรอบๆ ตัวตับไก่ที่บดได้เนียน นุ่ม ละมุน ทั้งเนื้อสัมผัสและรส มีรสหวานปลายลิ้นจากหอมหัวใหญ่ ใครชอบตับบดต้องสั่งจานนี้เลยครับ
Salmon Moriawase (350 บาท)
แซลมอนปลาดิบยอดนิยม เสิร์ฟรูปแบบต่าง ๆ 3 สไตล์ได้แก่ ทั้งสไตล์แบบคลุกซอส ซึ่งเป็นการใส่ซอสโคชูจัง รสจัดจ้านสไตล์เกาหลี หอมน้ำมันงา หวานมันนุ่มจากแซลมอนสด ที่หลายคนชื่นชอบ และนิยมมาก สำหรับแซลมอนสด แม้สดแต่แล่ไม่เก่งความหวานและมันก็จะต่างกันไป แต่ที่นี่เชฟโยโกฮาม่าแล่ด้วยทักษะระดับสูง และมีดคู่กาย ทำให้ได้ชิ้นเนื้อ ที่หวาน มัน นุ่ม ฉ่ำ อร่อยมาก ติดส่วนที่เรียกว่า Grey Meat หรืออาจเรียกว่า Brown Meat หรือ Dark Meat of Salmon ที่เป็นเนื้อส่วนหนึ่งของ “เส้นไขมัน” ที่อยู่ติดกับหนังของปลา ซึ่งเนื้อบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่เลือดของแซลมอนไหลผ่านตลอด ทำให้มีสีคล้ำอมเทาหรือน้ำตาล มีน้ำหนักรวมประมาณ 8-10% ของน้ำหนักตัว ไม่ใช่เลือดล้วนๆ หรือตับตามที่เข้าใจกันแต่อย่างใด ด้วยเพราะเนื้อส่วนนี้มีลักษณะเป็นเส้นไขมัน จึงอุดมไปด้วย กรดไขมัน โอเมกา-3 ที่หลายคนตามหา มีงานวิจัยพบว่า เนื้อสีเทาส่วนนี้มี โอเมกา-3 มากกว่า เนื้อสีส้มของแซลมอนเสียอีก และแบบสไตล์ ซาชิมิ ซึ่ง และสไตล์ อาบุริ ซึ่งอาบุริ คือการใช้ไฟเผาบริเวณผิว แต่เนื้อปลาด้านในจะยังสด ฉ่ำ หวานมัน และ มีอิคุระที่กรุบๆ มันๆเค็มๆอร่อยๆ ด้วย
Chicken Yakitori (160 บาท/2 skewers), Wagyu Negi Shio (680 บาท/1 skewer)
เมนูย่างจะเสิร์ฟมาบนเตาถ่านส่วนตัว สวยงามน่ารัก ทำให้อุ่นๆตลอดเวลา เป็นเนื้อไก่ย่างหนังกรอบทาเกลือ มีรสและกลิ่นอันเป็นเอกลักษ์จากยูสุ ให้ความหอมสดชื่น หรือ วากิว รสละมุนลิ้น ไม่ได้ปรุงอะไรมาก เพราะต้องการให้รับรสของเนื้อชั้นเลิศเต็มๆ เสริมความหวานจากหอมหัวใหญ่สับที่โรยหน้าและนำมาย่างให้น้ำในหอมหัวใหญ่ไหลซึมออกมา พร้อมต้นหอมญี่ปุ่น
Kurobuta Tonkatsu (230 บาท)
ทงคัตสึจากหมูคุโรบุตะ แป้งดำ กรอบนอกนุ่มในเป็นเมนูที่ช่วยให้อยู่ท้อง ผิวนอกกรอบแป้งไม่หนา เกล็ดขนมปังกำลังดี ผิวด้านนอกสีดำคือการนำผงถ่านมาคลุกกลับแป้งและเกล็ดขนมปัง อร่อยยย ละจิ้มกับน้ำจิ้มทงคัตสึคืออร่อยตายไปเลย น้ำจิ้มไม่ได้เป็นแบบหวานนำเหมือนร้านอื่นด้วย ที่นี่เค็มกับเปรี้ยวนำ ละมีหวานตามนิด ๆ กินน้ำจิ้มอย่างเดียว เนื้อหมูมีชั้นไขมันแทรกตัวกำลังดี
Hotate Kani Negitoro Don (430 บาท)
อีกเมนูที่จะช่วยให้อยู่ท้อง และอร่อยมาก ข้าวหน้าหอยเชลล์และปูซูไวสด หวาน ที่เครื่องจัดเต็ม หอยเชลล์สดใหม่และตัวค่อนข้างโตเลยทีเดียว สด หวาน นุ่ม หนึบฉ่ำ เลิศไปเลย เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดครับ มีโทโร่สดสับสดๆฉ่ำๆหวานๆ และอิกุระล้นๆมันเค็ม เป็นคอมบิเนชั่นที่ดีเลิศมากครับ
ฮามาจิซาซิมิ
ปลาฮามาจิหรือปลาบุรี คือปลาในตระกูล (Yellow Tail) เป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่นชนิดเดียวในโลกที่มี ชื่อเรียกหลากหลายไปตามช่วงอายุแถบโอซาก้านั้น จะเรียกปลาชนิดนี้ ตอนแรกเกิดว่า Tsubasu และเมื่ออายุมากขึ้นจะเปลี่ยนชื่อเป็น Hamachi พออายุเกิน 1 ปีถึง 3 ปีจะเรียกว่า Mejiro และช่วงอายุสุดท้ายจะเรียกว่า Buri จัดเป็นปลาเนื้อขาว ที่มีความมันแทรกอยู่ในเนื้อช่วงที่จะกินปลา Hamachi อร่อยที่สุดคือช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นเนื่องจากเนื้อจะมีความกรุบกรอบ แน่น และไขมันไม่ค่อยเยอะปลา Hamachi สามารถทำฟาร์มเลี้ยงได้ตลอดทั้งปี และเลี้ยงกันมากแถว Kyushu ซึ่งการทำฟาร์มเลี้ยงนั้น ปลาที่ได้จะมีความหอม มันมากกว่าปลาที่จับได้ตามธรรมชาติ
Desserts
สำหรับของหวานตอนนี้จะมีสองเมนู คือเค้กสปอนจน์ชาเชียว Matcha Sponge (100 บาท)เสิร์ฟพร้อมช็อคโกแลตครัมเบิล ตัวเค้กจะเนื้อค่อนข้างแห้ง ต้องกินคู่กับช็อคโกแลต หรือ เครื่องดื่ม ถึงจะพอดี ส่วนอีกจานเป็น Iced Yuzu & Chili (100 บาท) ไอศกรีมยูซึ เคลือบด้วยไวท์ช็อคผสมกับผงพริก และ สโนว์มะพร้าว
จะเห็นว่า Ki Izayaka แห่งนี้ มีหลายเมนูที่เรียกได้ว่าราคาดีและน่าสนใจ และ ราคาสมเหตุสมผลมากๆ บรรยากาศก็ดีและเดินทางได้สะดวก ดังนั้นจึงแนะนำจองก่อนเพื่อไม่ให้พลาดครับ ตอนนี้ร้านจะเปิดตั้งแต่ 17.30 จนถึง 24.00 น. (last order 22.30) สำหรับท่านที่สนใจในการจองสำหรับการฉลองกับเพื่อน ๆ ครั้งหน้า สามารถ จองได้ที่ ลิงก์นี้ หรือโทร
+66 (0) 2 095 9999
แล้วพบกันครับ !