Chef : — : 04 2022
Story : Nuttawut / Photo : Pol.Capt. Kittin A
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 การหยุดพักผ่อนและการท่องเที่ยวในภายในเมืองโดยที่ไม่ต้องออกไปต่างจังหวัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับท่านที่ไม่ได้เดินทางในช่วงวันหยุดยาวหรือในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยสำหรับท่านที่ต้องการใช้เวลาวันหยุดจากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย มาให้รางวัลกับตัวเองด้วยบุฟเฟ่ต์สุดพิเศษในราคาที่สุดคุ้มจนน่าประทับใจ ทาง Goji kitchen & bar
พร้อมให้บริการท่านด้วย
บุฟเฟ่ต์อาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ จากการลงมือประกอบอาหารสดๆ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี จากฝีมือเชฟผู้เชี่ยวชาญในการปรุงอาหารนานาชาติ โดยมีอาหารหลายประเภทหลากสไตล์ให้ท่านได้ลิ้มลอง
Goji kitchen & bar อยู่ชั้น G ของโรงแรม Marriott Marquis Queen’s Park ซอยสุขุมวิท 22
โดยสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS หรือหากขับรถยนต์ส่วนตัวมา ทางโรงแรมก็พร้อมมีที่จอดรถให้บริการ
ทางร้านมีการจัดบรรยากาศที่ลงตัว เหมาะสำหรับการนั่งทานอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น
บางโต๊ะตั้งติดกับกระจกทำให้ไม่ทึบ สามารถมองเห็นกิจกรรมและบรรยากาศด้านนอกได้ สำหรับท่านที่ต้องการบรรยากาศส่วนตัว ก็สามารถสำรองโต๊ะในห้องส่วนตัวที่ทางร้านมีการจัดแยกไว้ได้ ในขณะที่สเตชันอาหาร มีการจัดแบ่งเป็นโซนตามสไตล์อาหารไว้อย่างชัดเจน สามารถเดินดูได้ไม่อยาก โดยเราจะได้เห็นเชฟ
ลงมือทำอาหารให้ดูและเสิร์ฟอาหารขณะยังร้อนๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้บุฟเฟ่ต์ของ Goji kitchen & bar มีชื่อเสียงและน่าดึงดูดใจ
สำหรับเมนูอาหาร ทาง Goji kitchen & bar มีโปรโมชั่นสุดพิเศษและเมนูใน Theme พิเศษ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเสมอ โดยกิจกรรม โปรโมชั่น และ Theme อาหารตามช่วงเวลา ทำให้การเข้าไปรับประทานอาหารที่ Goji kitchen & bar ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และพร้อมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ด้วยระดับคุณภาพที่มีมาตรฐาน บริการที่น่าประทับใจ และอาหารเลิศรสที่รอให้คุณไปลิ้มลอง
สำหรับเมนูพิเศษที่ทาง Goji kitchen & bar และ Kinlakestar.com ภูมิใจนำเสนอในการรีวิวครั้งนี้ คือ เมนูอาหารแคว้นเวเนเทียน (Venetian) ซึ่งทางร้านได้ยกอาหารเมืองเวนิสแท้ๆ มาให้ท่านได้ลิ้มลอง
ด้วยวัตถุดิบพื้นเมืองอย่างดี และการปรุงอาหารด้วยความตั้งใจของเชฟ ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ทางอาหารอันน่าประทับใจให้แก่ท่าน เพื่อสร้างความประทับใจจนอยากกลับไปลองทานอีกครั้ง
ตัวอย่างเมนูหลักที่จัดเสิร์ฟในสเตชัน เช่น
– รีซอตโตถั่วเขียว ประกอบอาหารพร้อมกับเบคอนและชีสพาเมซาน ผลลัพธ์ที่ได้คือรีซอตโตหอมกรุ่นที่มีสีเขียวสวยงาม ทานแล้วให้รสสัมผัสที่กรุบ เคี้ยวสนุก มีรสออกเค็มจากเบคอนและชีส หอมกลิ่นถั่วเขียวและชีส ให้ความรู้สึกละมุนไปทั่วทั้งปาก
– บิโกลิซอสหมึกดำ ใช้พาสต้าบิโกลิสด กับซอสหมึกดำ ประกอบอาหารพร้อมกับหอยและปลาหมึก
ตัวเส้นมีความพิเศษคือเป็นเส้นที่สด เคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกเด้งสู้ฟัน ซอสหมึกดำมีรสออกเปรี้ยวอันมีเอกลักษณ์ แต่เตรียมทิซชู่ไว้เช็ดปากด้วย เพราะปากและฟันจะเลอะหมึกแน่นอน
– พิซซ่าหน้าซีฟู้ดเปสคาโทเร่ ที่เชฟยืนนวดแป้งและเอาเข้าเตาอบแบบทำสดๆ แป้งกรอบมาก มาพร้อมกับหน้าซีฟู้ด ที่มีทั้งกุ้งและปลาหมึก
– สลัดชีสบูราต้ามะเขือยาวหมัก เสิร์ฟพร้อมเบคอนโปรชูตโต ลูกฟิกหรือมะเดื่อฝรั่งสดในบัลซามิก ประกอบกับชีสบูราต้าที่แช่น้ำแข็งก่อนเสิร์ฟขึ้นจาน ทานแล้วให้ความรู้สึกเย็น สดชื่น และกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี เป็นทีเด็ดที่อยากให้ทุกท่านได้ทดลอง
– ปลาหมึกอย่างทั้งตัว ราดซอสเปรี้ยวหวานและแรดิชิโอย่าง ปลาหมึกมีความเหนียวและเด้งสู้ฟัน ซอสมีความเปรี้ยวตัดกับปลาหมึกอย่างกำลังดี หอมทั้งกลิ่นซอสและกลิ่นที่ได้จากการย่างหมึก ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
และ Baccalà montecato เป็นวิปปิ้งปลาค็อดราดบนโพเลนต้าย่าง รสชาติออกเค็ม รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
นอกจากนี้ Goji kitchen & bar ยังพร้อมนำเสนอเมนูอาหารอื่นๆ ที่มีความหลากหลายหลากเชื้อชาติ ภายในร้านให้ท่านได้ลองลิ้มชิมรส จากเชฟผู้มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารชาติต่างๆ ทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น และอาหารตะวันตก เช่น
ของขึ้นชื่อประจำร้าน แพนเซียร์ฟัวกราเสิร์ฟบนขนมปังราดซอสบัลซามิก เสิร์ฟพร้อมแยมส้ม เป็นอาหารจานที่ครบถ้วนในจานเดียว ทั้ง เปรี้ยว มัน หวาน และออกรสเค็มนิดๆ โดยรวมแล้วไม่เลี่ยนเพราะรสหวานของแยมตัดความมันได้อย่างลงตัว เป็นเมนูยอดฮิตที่เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของห้องอาหาร
สเตชันอาหารทะเล
Seafood on Ice ที่แทบจะรวมอาหารทะเลทุกชนิดอยู่ในสเตชั่น หอยนางรมตัวโตๆ หลากหลายสายพันธุ์จากหลายเชื้อชาติ อาทิ
หอยนางรมไอร์แลนด์
Ostra Regal Oyster (ออสตร้ารีกัล)
หอยนางรมสายพันธุ์นี้ถูกจัดว่าเป็น หอยนางรมสุดพิเศษ ระดับ Gold Selection ถึง 5 ปี จากอ่าว Bannow Bay ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ เป็นหอยนางรมที่มีรสชาติหวานและเค็มไปพร้อมกัน ทำให้ Ostra Regal เป็นหอยนางรมอีกสายพันธุ์ที่มีรสชาติโดดเด่นไม่แพ้สายพันธุ์อื่นๆ เลย
หอยนางรมชลบุรี ประเทศไทย
ตะโกรมกรามขาว
เป็นหอยนางรมยอดนิยมที่นักชิมคนไทยต้องคุ้นเคย “หอยนางรมสุราษฎร์” และ “หอยนางรมภูเก็ต” ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของหอยนางรมไทยในเรื่องของขนาด ซึ่งหอยนางรมแต่ละท้องถิ่นมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันไป เพราะขึ้นอยู่กับระดับความเค็ม อุณหภูมิ และคุณภาพของน้ำทะเล
ฟิน ดิ แคลร์ จากฝรั่งเศส
Fin de Claire Oyster (ฟิน ดิ แคลร์)
หอยนางรมสายพันธุ์นี้ใช้เวลาเพาะเลี้ยงอยู่หลายสัปดาห์ในบ่อน้ำตื้น ทำให้ได้เนื้อหอยนางรมที่มีคุณภาพดีกว่าหอยนางรมจากทะเล และยังเป็นหอยนางรมที่มีเนื้อบาง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเนื้อหอยเยอะ ถึงแม้เนื้อจะบาง แต่ก็ยังได้ความฉ่ำและมีรสชาติกลมกล่อมทานง่าย
และอาหารทะเลอื่น ๆ ทั้ง หอยแมลงภู่ออสเตรเลีย หอยหวาน กุ้งขาว (กุ้งแชบ๊วย) กั้งหิน และปูสีฟ้า ที่มีความสดสมบูรณ์ ตัวใหญ่เต็มปากเต็มคำจุใจ กินได้ไม่อั้นด้วยปริมาณที่เตรียมไว้เยอะมาก
สเตชันอาหารญี่ปุ่น
เสิร์ฟทั้งซูชิ และซาชิมิปลาชนิดต่างๆ ทั้งแซลมอน ทูน่า ปลากะพงแดง ที่มีความสดมาก ๆ รวมถึงซูชิหน้าต่าง ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟได้ไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นนิกิริหน้าวากิว หน้าไข่หวาน หน้าปลาหมึกสด หน้ากุ้ง หน้าแซลมอน ฯลฯ
โดยมีเชฟยืนปั้นยืนหั่นซาชิมิและเสิร์ฟให้ตามออเดอร์แบบสด ๆ ทั้งซูชิและซาชิมิ
เมื่อทานแล้วจะรู้สึกได้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการทำมีสภาพที่ดีมาก จากความรู้สึกที่ยังสัมผัสได้ถึงความสดของเนื้อปลาทุกชนิด
สเตชั่นอาหารจีน
อย่างติ่มซำหลากหลายชนิด พร้อมเสิร์ฟ อาทิ ขนมจีบกุ้งตัวโตๆ ขนมจีบปู ฮะเก๋ากุ้ง ซุปกระเพาะปลาน้ำแดง และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นอีกสเตชันหนึ่งที่เหมาะสำหรับการเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารตะวันตก มาลองพักยกด้วยการทานอาหารชาติตะวันออก
สเตชันอาหารไทย
ในช่วงที่เราไปนี้มีสเตชั่นพิเศษเสริมเพิ่มขึ้นมานั้นคือข้าวแช่ชาววังที่รังสรรค์โดยเชฟฝนจากห้องอาหารสยามที่รูม ข้าวแช่ชาววังเครื่องครบอันแสนโด่งดัง ซึ่งยังได้รับการจัดอยู่เป็นหนึ่งในร้านแนะนำข้าวแช่รสเลิศประจำปี 2565 จาก Kinlakestars อีกด้วย (คลิกที่นี่เพื่อชม รวมรีวิว ลายแทง ช้าวแช่ เด็ดๆหลากสไตล์หลายบรรยากาศทั่วกรุงฯ ที่เราชิมแล้วอยากบอกต่อ ประจำปี 2022 ที่คุณต้องลอง ) โดยนอกจากข้าวแช่ก็ยังมีไก่ย่าง ขนมจีน แกงต่างๆ และอื่นๆอีกมากมายให้เลือกสรรค์
สเตชันอาหารอินเดีย
แม้ในห้องบุฟเฟ่ต์นานาชาติหลายที่อาจไม่มีแต่ที่นี่มีให้คุณ ปัจจุบันอาหารอินเดียเองก็เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ชาวไทยมากขึ้น ที่นี่มีให้บริการทั้งข้าวอินเดีย ซึ่งเป็นข้าวทรงยาวหุงกับเครื่องเทศ แป้งนาน ไก่ติ้งก้า และสารพัดแกง
สเตชันเนื้อ
สำหรับท่านที่เป็นสายทานเนื้อโดยเฉพาะ มีทั้งเนื้อวากิวและเนื้อแกะให้บริการ สามารถบอกความต้องการและระดับความสุกกับเชฟได้
และมีสเตชันขวัญใจมหาชน อย่าง ชาบูแต้จิ๋ว
ที่เชฟพร้อมเสิร์ฟสดๆ หรือสำหรับท่านที่ชื่นชอบอาหารไทย ทาง Goji kitchen & bar ก็มีสเตชันอาหารไทย อย่างส้มตำไก่ย่าง ต้มยำทะเลรวมมิตร หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อสุดเข้มข้น
Salad Cheese Cold cut
สำหรับของหวาน
ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นที่ขึ้นชื่อของ Goji kitchen & bar ที่ทางร้านและเชฟผู้มากฝีมือ พร้อมจัดเตรียมของหวานนานาชนิด มาให้บริการลูกค้าทุกท่านเพื่อส่งท้ายมื้ออาหารอันน่าประทับใจนี้ด้วยของหวานหลากหลายชนิด ทั้งทาร์ตผลไม้ ทาร์ตครีมเลมอน เค้กลามิงตันหลากรสชาติ ไอศกรีมเจลลาโต พุดดิ้ง
ทิรามิสุ เป็นสเตชันของหวานที่มีหลากหลายชนิดมาก ๆ เหมาะสำหรับการเข้ามาทานหลายๆรอบเป็นอย่างยิ่ง
แม้แต่ของหวานคู่คนไทยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงทางร้านก็มีพร้อมเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังมีขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนที่หอม กรอบนอกนุ่มใน และเค้กมะพร้าวที่เป็นขึ้นชื่อซึ่งปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างน่าประทับใจ จากรสชาติที่หวานอ่อนๆ เนื้อมะพร้าวที่แน่น และครีมที่นุ่มฟู จนเรียกได้ว่า แค่เข้ามาทานของหวานอย่างเดียวก็คุ้มกับราคาแล้ว
นอกจากปริมาณอาหารที่เยอะมากจนมาทานครั้งเดียวยังทานไม่หมดแล้ว ทางห้องอาหารให้เวลา
ในการนั่งทานอาหารไว้เยอะอย่างเหลือเฟือสำหรับการนั่งพักยก และนั่งคุยนั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆและครอบครัว ก่อนที่จะเก็บท้องไว้ลงสนามบุฟเฟ่ต์อีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเย็น ที่บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำวันศุกร์ – อาทิตย์
ทางห้องอาหารเปิดตั้งแต่เวลา 17.30 – 22.00 น.
นอกจากนี้ ทาง Goji kitchen & bar ยังจัดสเตชันตามเทศกาล โดยนำพามาซึ่งความแปลกใหม่และประสบการณ์ทางอาหารที่น่าประทับใจ ทำให้การเข้ามาทานที่ห้องอาหารแต่ละครั้ง มีบางอย่างเปลี่ยนไปและแปลกใหม่อยู่เสมอ โดยที่ยังคงคุณภาพระดับสูงไว้ เช่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทางห้องอาหารได้เตรียม
สเตชันข้าวแช่ เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ที่ประกอบด้วยข้าวแช่พร้อมเครื่องเคียง เพื่อทานดับร้อนและดับคาว หรือการจัดเทศกาลอีสเตอร์ โดยการจัดเมนูของหวานพิเศษต่างๆ รวมถึงเทศกาลอื่นๆ ในอนาคต
สำหรับโปรโมชั่นอาหารอิตาเลียนจากแคว้นเวเนเทียนนี้ จะให้บริการทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 29 พฤษภาคม 2565 โดยแบ่งช่วงเวลาเป็น
บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 17.30 – 22.00 น. ราคา 2,199++ ต่อท่าน
บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันวันเสาร์ เวลา 12.00 – 14.30 น. ราคา 2,199++ ต่อท่าน
บุฟเฟ่ต์มื้อบรันซ์วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 14.30 น. ราคา 2,500++ ต่อท่าน
(ราคานี้ยังไม่รวมราคาเครื่องดื่ม และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สำหรับการเข้าไปรับประทานอาหาร ทางร้านแจ้งว่าควรติดต่อเพื่อสอบถามหรือสำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้า เนื่องจากในช่วงวันหยุด มีผู้สนใจเข้าติดต่อสำรองที่นั่งเป็นจำนวนมาก โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งโทร. +66 (0) 2 059 5999 หรือผ่านทางอีเมล์ [email protected] สำหรับสมาชิกแมริออท บอนวอยและคลับแมริออทสามารถรับส่วนลดตามสิทธิ์หน้าบัตรได้
Kin Review
Buffet, Italian Cuisine, goji, marriott marquis, casual dining, review
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว