ไปอินเดียก็หาแบบนี้ไม่ได้ อาหารอินเดียที่เลิศรส ครบเครื่อง และหลากหลาย ไม่อั้น กับ Indian Sunday brunch สไตล์ Fine dining
โดยทั่วไปเราอาจคุ้นชินกับ Sunday brunch ที่จัดเต็ม อัดแน่นไปด้วยซีฟู้ด ทั้งล๊อบสเตอร์ ปูอลาสก้า หอยนางรม ฟัวกราส์ คาร์เวียร์ สารพัดเมนู แต่ ในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปพบกับ Sunday brunch ที่อัดแน่นไปด้วยอาหารอินเดียที่หลากหลายและเลิศรส กับบรรยากาศ Indian Fine dining
ถึงแม้ว่าปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ จะเป็นร้านอาหารที่ตั้งอย่างเป็นเอกเทศมีทางเข้าหลักเป็นสัดส่วน แต่แขกที่มาพักกับเราก็ยังสามารถใช้บริการภัตตาคารแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบาย และเนื่องจากปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิทซอย 13 ยังสะดวกต่อการเดินทางโดยลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีนานา หรืออโศกก็ได้” มร.ไซมอน แรมซี่ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเรดิสันสวีท กรุงเทพฯ สุขุมวิท กล่าว
บรรยากาศห้องอาหารที่จะชวนให้ทุกท่านนึกถึงบรรยากาศแบบอินเดีย ทั้งการตกแต่งภายใน ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ การจัดวาง รวมถึงชุดของบรรดาพนักงาน ที่ตัดทอด้วยผ้าและรูปแบบลูกไม้สไตล์อินเดียแท้ๆ
เริ่มต้นเข้าสู่ห้องอาหาร ทุกท่านจะพบกับกับ Indian street food live Station สำหรับความพิเศษของซุ้มนี้คือ ทุกท่านจะได้พบกับอาหารอินเดียท้องถิ่นแบบแท้ๆ ดั้งเดิม รสเลิศ และหากินได้ยากในไทย และต่อให้ไปอินเดีย คุณก็ยากจะกินลงเพราะความสะอาดของการทำอาหารริมทางของอินเดียนั้น ขึ้นชื่อลือชายิ่งนัก
เราจะเริ่มกันด้วยมุม Chaat Counter มุมที่จะนำเสนอของทานเล่นคล้ายออเดิร์ฟ เมนูแรกเรียกว่า Pani Puri เป็นแป้งทรงกลมกรอบและบาง ด้านในจะบรรจุน้ำซุปที่มีรสเปรี้ยวส่วนผสมหลักๆ จะประกอบไปด้วย Dried mango powder, Cumin, Rock salt, Coriander, Dried Ginger, Salt, Black and Red pepper เป็นต้น เวลารับประทานจะเสิร์ฟบนกระทงใบตอง หยิบ Pani Puri แล้วใส่ปากทั้งคำ
และต่อกันด้วย Utthappam Sambar “Chutney” รสชาติชิ้นนี้ดีสัมผัสเป็นแป้งนุ่มๆ จืดๆ คล้ายแพนเค้กแต่เบากว่า แต่ขอเตือนว่ากินระวังๆ แม้น่าตาอาจจะดูจืดๆ เรียบร้อยก็ตามที เพราะในตัวแป้ง เชฟได้ผสมเอาพริกสดลงไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เผ็ดระเบิดเลยทีเดียว เวลากินให้กินพร้อมกับแกงสีจัดจ้านช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนได้ดีทีเดียวครับ
และมุมต่อมาที่อยู่ข้างๆกันนั้นคือ มุมสลัด สำหรับมุมสลัดนี้ ก็มีผักสดมากมายให้เลือกสรร น้ำสลัดทั้งแบบธรรมดา และแบบ Indian style ใครที่ชื่นชอบการกินผักผมแนะนำให้ลองน้ำสลัดให้ครบทุกแบบเลยนะครับ
ต่อมาจะเริ่มในส่วนของกินเล่นแบบ อินเดียประยุกต์ สำหรับมุมนี้จะมีอาหารคุ้นตาหลายๆคน ดูกินง่ายแต่ไม่เหมือนทั่วๆ ไปแน่นอน เริ่มต้นกันด้วย ขนมปังกริลหอมๆ ท็อปปิ้งด้วยไข่คนกินเพลินๆ และเฟรนด์ฟรายผงกะหรี่อินเดียได้รสชาติมัน เผ็ด เค็ม อร่อยไปอีกแบบครับ
ต่อกันด้วยเบอเกอร์เนื้อแกะชิ้นเล็กๆ พอดีคำ
มุมต่อมาได้แก่ มุมที่จะเป็น hot station “VEG and NONVEG Grill” ที่เราสามารถ order สั่งทำได้ใหม่ๆสดๆร้อนๆ ไม่ว่าจะเป็นบาบีคิวสเต็กไก่ แกะ หรือกุ้ง มาพร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบที่เรียงลำดับความเผ็ดตามใจคนที่ชื่นชอบความร้อนแรง
และต่อมาจะเป็นมุมที่ใหญ่สุดของไลน์บุฟเฟ่ต์ในวันนี้ นั้นคือมุมแกง
แกงนั้นนับว่าเป็นเสมือนอาหารหลัก และเป็นตัวแทนของอาหารอินเดียก็ว่าได้ เพราะเมื่อพูดถึงอาหารอินเดียคงไม่พ้นแกง สำหรับมุมแกงนั้นประกอบไปด้วยแกง MUTTON ROGAN JOSH รสชาติจะคล้ายๆ มัสมันแต่ไม่หวานมีให้เลือกทั้งเนื้อและไก่
STIE FRIED SQUID WITH CURRY POWDER หรือหมึกผัดผงกะหรี่ที่รสชาติถึงเครื่อง ต่างจากที่เราเคยกินทั่วไปมากครับ
MALAI KOFTA
VEGETABLE JALFREZI
CHICKEN DUM BIRYANI ข้าวหมกไก่ซึ่งที่นี่ใช้ข้าวแบบอินเดียที่เม็ดยาวๆ ให้ความรู้สึกเวลาเคี้ยวแปลกไปอีกแบบครับ
เมนูข้าวกินคู่กับโยเกิร์ตที่ใส่เครื่องเทศเข้าไป ให้ความรู้สึกเหมือนกินซีเรียล แปลกดีครับ
MUTTER SHAMMI
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดได้แก่มุมเครื่องดื่มและของหวาน ที่มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นสมูทตี้ ชา โยเกิร์ต แอลกอฮอล์ และน้ำผลไม้เป็นต้น
มุมชา Masala Chai Counter เสิร์ฟชาร้อนๆ รสชาติเผ็ดจากการนำเครื่องเทศและสมุนไพรของอินเดียมาผสมกับชาดำ ทำให้ได้ชาดำที่มีกลิ่นเครื่องเทศเป็นเอกลักษณ์ ดื่มหลังมื้ออาหารช่วยย่อยได้ดีครับ
หรือจะเป็นมุม Lassi Counter ที่มีโยเกิร์ตรสชาติต่างๆ มาให้เราดื่มแก้เลี่ยน และคลายความเผ็ดร้อนของอาหารได้ดีมาก ซึ่งก็มีโยเกิร์ตรสต่างๆ ให้ลองชิมมากมายไม่ว่าจะเป็น Sweet Lassi, Jeera Lassi, Rose Lassi, Mango Lassi หรือ Kesar Pista Lassi
ส่วนนี่ก็เป็นเครื่องเทศต่างๆ ที่เราสามารถใส่เพิ่มลงไปปรุงรสให้กับเครื่องดื่มได้ครับ
และของหวานนั้น ประกอบไปด้วย Gulab Jamun ความรู้สึกคล้ายๆแป้งปั้นเป็นก้อนแล้วเอาไปนึ่ง เสิร์ฟอยู่ในน้ำเชื่อมที่มีกลิ่นขิงรุนแรงมากครับ รสชาติหวานหอม ทานเพลินๆ ดีครับ
Mango Rice Kheer เมนูนี้เป็นของหวานที่ใช้ข้าวมานึ่งกับนมท็อปปื้งด้านบนด้วยมะม่วง อารมณ์เหมือนพานาคอดตต้าแต่มี Texture ให้เคี้ยวเพลินๆ
Butterscotch Chenna Payesh ของหวานแก้วนี้รสชาติหวาน มัน จากนมและเนย กินไปเรื่อยๆ จะได้ความหอม รสชาติไม่หวานมาก แต่ถ้ากินสักสองสามแก้วจะเริ่มรู้สึกเลี่ยนนิดหน่อยครับ
ไฮไลท์ของมุมของหวานคือ ไอศกรีมทำใหม่ๆสดๆ ที่มีชื่อว่า Kulfi Counter นั่นเองครับ โดย Kulfi นั้ถือเป็นไอศครีมของอินเดียที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย ยุโรป เอเชียตะวันออก และอเมริกาเหนือ โดยความแตกต่างของ Kulfi ที่แตกต่างจากไอศกรีมทั่วไปคือมันจะไม่ละลายเป็นน้ำ เนื่องจากเชฟจะใช้นมผสมกับไฮโดรเจนเหลวทำให้เนื้อของนมจับตัวกับเป็นเกล็ดแข็งๆ
เวลากินจะราดด้วยซอสรสต่างๆ เช่นนมข้น สตรอเบอร์รี่ มะม่วง บัตเตอร์สก็อต ช็อคโกแลต โรยหน้าด้วยถั่วลิสงและพิตาชิโอป่น เป็นอันเสร็จพิธี
หนึ่งในความพิเศษของห้องอาหารนี้คือเชฟใหญ่นามว่า “เชฟบารัธ”
และเพื่อเป็นการรับรองถึงความเลิศรสของอาหารอินเดียระดับพรีเมียม เราขอให้ดูประวัติเชฟกันสักหน่อย เชฟบารัธ เชฟใหญ่แห่งปันจาบ เกิดในปีพ.ศ. 2523 เดิมทีเขาฝันอยากทำงานด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์แต่ด้วยปัญหาทางการเงิน จึงทำให้เขาต้องเลือกเรียนด้านการปรุงอาหารแทน เขาจึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อ ณ สถาบันการบริหารจัดการโรงแรม บังกาลอร์ (Institute of Hotel Management Bangalore) ในสาขาวิชาด้านการจัดเลี้ยงในระหว่างปีพ.ศ. 2543 – 2546 ต่อมา Taj Group ได้รับเขาเข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝึกหัดด้านครัวในปีพ.ศ. 2546
ซึ่งเขาได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวอาหารอินเดียทุกแขนงเป็นเวลา 2 ปี เดือนพฤษภาคม 2548 ด้วยความรักในการเดินทางท่องเที่ยว เขาจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Grosvenor House ที่ดูไบในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวก่อนที่จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแผนกครัว ของ “Indego by Bhatia ” ร้านอาหารระดับมิชลิน 1 ดาวขนาด 110 ที่นั่งที่ให้บริการอาหารอินเดียร่วมสมัย ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2552 เชฟบารัธได้มีโอกาสร่วมงานกับโรงแรมอาร์มานี ที่ตึกเบิร์จคาลิฟาในตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกครัวของร้านอาหารอินเดีย Armani/Amal ก่อนที่เขาจะร่วมงานกับโรงแรมเลอ เมอริเดียนในเดือนมีนาคม 2554 ในตำแหน่งหัวหน้าแผนกครัวของห้องอาหาร MAHEC เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่ร่วมเปิดโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้ง 2 แห่งนี้ด้วย
หลังจากอยู่ที่ดูไบเป็นเวลา 7 ปี เชฟบารัธได้ร่วมงานกับทีมงานเปิดโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิสที่มอริเชียส และได้ช่วยเชฟอตูล์ โคชาร์เปิดร้านอาหารอินเดียร่วมสมัยระดับมิชลิน 1 ดาวของโรงแรมที่ชื่อว่า “Simply India by Atul Kochhar”
เชฟบารัธรับผิดชอบในการสร้างสรรค์รายการอาหารและควบคุมมาตรฐานตลอดจนฝึกอบรมพนักงานชาวมอริเชียนให้สามารถปรุงอาหารอินเดีย จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2556 เชฟบารัธตัดสินใจเดินทางกลับประเทศอินเดีย และได้ร่วมงานกับบริษัท ไลท์ ไบท์ ฟู้ดส์ จำกัด ในฐานะหัวหน้าแผนกครัวอาวุโสของภัตตาคารปัญจาบ กริลล์ของบริษัทฯ ซึ่งในขณะนั้นมี 10 แห่งทั่วประเทศอินเดีย และ 1 แห่งที่สิงคโปร์
ในช่วงเวลานั้นเขามีบทบาทสำคัญที่ทำให้ปัญจาบ กริลล์ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย อาทิ รางวัล ‘Best North Indian Restaurant in Pune’ โดย Time Food Awards ในปีพ.ศ. 2556 และ 2557 รางวัล ‘Best North Indian Restaurant in South Mumbai’ โดย Time Food Awards ในปีพ.ศ. 2557 และรางวัล ‘Most Admired Retail Brand of the Year – Dine-in Indian Cuisine’
โดย Coca Cola Golden Spoon Award ในปีพ.ศ. 2557 เดือนมกราคม 2558 เขาได้ร่วมงานกับรีสอร์ทหรู อลิลา ดิวา โกอา รีสอร์ทในตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกครัว แต่อย่างไรก็ดี ความรักในการเดินทางได้พาให้เขามายังประเทศไทย เพื่อร่วมเปิดภัตตาคารปัญจาบ กริลล์ แห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ ที่โรงแรมเรดิสัน สวีท สุขุมวิท กรุงเทพฯ และนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2558
เชฟบารัธรับผิดชอบในการคัดสรรวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ดีที่สุดเพื่อรังสรรค์รายการอาหารและฝึกอบรมกุ๊กและพนักงานบริการชาวไทย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ จะสะท้อนและรักษามาตรฐานด้านการบริการและอาหารที่มีคุณภาพตามแบบฉบับของปัญจาบ กริลล์
ภัตตาคารปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ มีพื้นที่ทั้งหมด 280 ตารางเมตร รวมบาร์และเลานจ์ สามารถรองรับแขกได้ 70 ที่นั่ง
ลูกค้าที่เคยลิ้มลองอาหารที่ภัตตาคารปัญจาบ กริลล์ ที่อินเดีย อาบูดาบี หรือสิงคโปร์มาแล้วสามารถลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อ อาทิ ‘Avocado Papdi Chaat’ (อโวคาโดผัดกับชัทนีย์และมะเขือเทศเชอรี่เสิร์ฟในโคน) ‘Tawa Scallops’ (หอยเชลล์เสิร์ฟกับพูเรดอกกะหล่ำ) และ ‘Tandoori Jheenga’ (กุ้งกุลาดำย่างเสิร์ฟกับชัทนีย์ใบสะระแหน่และผักชี) ได้ที่กรุงเทพฯ แล้วนับจากนี้
PUNJAB GRILL เปิดให้บริการอาหาร Sunday Brunch ตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.00 น. ในราคา 1,300.- net หรือเพิ่ม 600.- จะได้เครื่องดื่ม Beer, Wine และ Prosecco
มื้อค่ำตั้งแต่เวลา 18.00 น. –23.30 น. และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ลูกค้าทุกท่านที่สำรองที่นั่งผ่านทางเว็บไซต์ www.punjabgrillbangkok.com จะได้รับโพรเซ็กโก 1 แก้วเพื่อร่วมดื่มฉลองการเปิดปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ ด้วยครับ
เรื่อง / ภาพ : Pol.lt. Kittin A., Khanenpan C.
เกี่ยวกับปัญจาบ กริลล์ และอาหารปัญจาบ
นับตั้งแต่เปิดให้บริการ ปัญจาบกริลล์เป็นหนึ่งในภัตตาคารอาหารอินเดียที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในอินเดีย และได้รับการชื่นชมว่าเป็นสุดยอดอาหารอินเดียตอนเหนือติดชายแดน (อัฟกานิสถาน ปากีสถานและปัญจาบ)
อาหารในภูมิภาคนี้มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดเห็นได้จากขั้นตอนการเตรียมอาหารที่เรียบง่าย คือการหั่นเนื้อ หรือผักให้มีชิ้นขนาดใหญ่ หมักด้วยเครื่องเทศ และทำให้สุกอย่างช้าๆ ในเตาทันดูร์โดยใช้อุณหภูมิสูง การใช้เครื่องเทศในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อรักษารสชาติและไม่ให้กลบรสชาติของส่วนผสมหลัก โดยเครื่องเทศหลักที่ใช้ในการปรุงอาหาร ได้แก่ พริกเหลืองผง ใบลูกซัด พริกแดงของ Kashmiri ผงเครื่องเทศรวม กระวาน ผงดอกจันทน์เทศ ยี่หร่าและเม็ดอัจวาน อาหารขึ้นชื่อของปัญจาบ กริลล์ ได้แก่ ‘Crab and Lentil Shorba’ ‘Avocado Papdi Chaat’ ‘Tawa Scallops’ และ ‘Tandoori Jheenga’ เครื่องดื่มเด่นของปัญจาบ กริลล์ อาทิ ‘Paan Mojito’ ‘Kikki De Teekhi’ และ ‘Masala Orange’
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีว และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาติจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB