Story : Nattawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A.
สวัสดีท่านผู้ที่หลงใหลในศิลปะการทานอาหารอย่างมีรสนิยมทุกท่านครับ
วันนี้ทางทีม Kinandleisure ขอต้อนรับทุกท่านสู่การเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์อีกครั้ง กับประสบการณ์ Fine Dining อันน่าประทับใจที่ไม่เหมือนใคร คราวนี้เราขอพาทุกท่านสัมผัสกับ Progressive Thai Cuisine ฝีมือเชฟน็อค พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ เชฟไทยมากฝีมือ ที่ได้บรรจงรังสรรค์อาหารไทยในมิติใหม่ ผสมผสานศิลปะการทำอาหารแบบฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงาม การนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือรสชาติที่ซับซ้อนในทุกคำ ทุกจานเต็มไปด้วยแนวคิดที่ล้ำลึกและรายละเอียดที่พิถีพิถัน
นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับมื้ออาหารที่ไม่ใช่แค่อาหาร แต่เป็นประสบการณ์แห่งความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ที่คุณจะไม่ลืม ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะต้องหลงรักในความพิเศษนี้ และขอเชิญชวนให้ไปสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยตัวเอง
Location
สำหรับห้องอาหาร Restaurant INT ตั้งอยู่ค่อนข้างลับซักหน่อย โดยอยู่ที่โรงแรม Best Western ในซอยสุขุมวิท 20 ซึ่งห้องอาหารตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟฟ้าแล้วต่อรถเข้ามา หรือสามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามหรือสถานที่ใกล้เคียง (เพราะที่ Best Western ที่จอดรถค่อนข้างจำกัด)
Decoration
ภายในห้องอาหาร Restaurant INT มีการตกแต่งโดยใช้โทนสีเข้ม และแสงไฟสีเหลืองอ่อนสลัวๆ ให้ความรู้สึกถึงความโมเดิร์น เรียบง่าย แต่เรียบหรู โดยผู้รับประทานสามารถมองเห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารและการเตรียมเสิร์ฟจากทีมเชฟได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตรงสเตชันจะเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตา โดยเนื่องจากจำนวนที่นั่งของทานร้านมีจำกัด จึงขอให้ทุกท่านทำการจองโต๊ะอาหารก่อนมารับประทานครับ
Chapter 3 : Yesteryears
สำหรับ Theme อาหารในคราวนี้ของทางร้าน พร้อมนำเสนอใน Theme : Yesteryears ซึ่งมีคอนเซ็ปที่น่าสนใจ คือการมอบประสบการณ์ทางอาหารไทยซึ่งเป็นเมนูที่เป็นที่นิยมจากจังหวัดต่าง ๆ ให้กับผู้รับประทาน โดยที่มีความพิเศษคือการปรับรูปแบบการนำเสนอ ด้วยไอเดียที่มีความสร้างสรรค์และเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ที่มีความรอบด้าน เพื่อการนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมเหล่านี้ในสไตล์ Progressive Thai Cuisine ด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีต ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือการนำอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมมาเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงใหม่ ให้กลายเป็นอาหารที่มีรูปแบบและการจัดจานที่ทันสมัย มีลักษณะเป็น Fine Dinning ในลักษณะแบบฝรั่งเศส พร้อมยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติที่ยังคงอยู่ตามแบบฉบับของอาหารไทย ซึ่งทุกท่านจะได้พบกับอาหารไทยที่มีชื่อคุ้นหูต่างๆ ถูก Reconstruct เพื่อการนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่แปลกตาแปลกใจไม่เคยเห็นมาก่อน ในขณะที่รสชาติยังคงความคลาสสิกไว้เช่นเดิม
โดยภายในคอร์ส Yesteryears ประกอบด้วยอาหารจำนวน 12 คอร์สคุณภาพ (+ 2 เมนู Add-on รวมถึงสามารถเพิ่ม Wine Pairing) และมีจานที่สามารถเลือกเสิร์ฟได้เช่นกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
Amuse – Bouches
Cobia Fish
ได้แรงบันดาลใจมาจากทอดมันปลากราย ตัวแป้งด้านล่างทำมาจากพริกแกงที่จะใช้ในตัวทอดมันปลา ใช้เนื้อปลาช่อนทะเลสไลด์เป็นซาชิมิ ในขณะตัวเจลลี่สีเขียวอ่อนด้านบน ทำมาจาก น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว และสมุนไพร และด้านบนสีขาวๆ จะใช้กะทิทำเป็น purée และมีสมุนไพรสด เมื่อเวลาทานจะให้ความรู้สึกเหมือนตัวทอดมันปลากราย ที่ได้รสครบถ้วน ทั้งตัวปลา แป้ง และพริกแกงให้สัมผัสชัดเจน ในขณะที่รสสัมผัสได้รับการดัดแปลงใหม่ให้มีความเนียนขึ้น
Blue Crab
ได้รับแรงบันดาลใจมากจากตัวหลนเต้าเจี้ยวโบราณ (หลนปู) ด้านในเป็นเนื้อปูที่คลุกกับตัว Emulsion จากตัวกะทิ เครื่องหลนต่างๆ ไวน์ขาว ใส่ในแป้งนุ่มแบบโดนัทสีดำด้านนอก ด้านบนเป็นขมิ้นขาวและโปะด้วยไข่ปลาคาเวียร์จากฝรั่งเศส รสสัมผัสมันกรุบ พริกแกงมีกลิ่นชัดเจนกว่าจานทอดมันปลากราย เหมือนเป็นการไล่ลำดับรสชาติ ในขณะที่ตัวไข่ปลาคาร์เวียร์ก็ใส่มาได้อย่างมีวัตถุประสงค์ คือการเพิ่มรสชาติมันกลมกล่อมเข้าไป
Cowa Leaves
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแกงหมูชะมวงจากจันทบุรี ตัวทาร์ตสีแดงทำมาจากพริกแกงแดงและบีทรูต ด้านในเป็นหมูสามชั้นที่นำมา Slow cooked กับตัวเครื่องแกง และมีตัว purée จากใบชะมวง ด้านบนเป็นตัวลำไยที่คลุกกับพิโกมัสตาร์ดทำเป็นยำ มีรสชาติออกหวานนำ และเค็มตามปิดท้าย ใบสีม่วงๆ ด้านบนเป็นใบซอเรล มีรสชาติเปรี้ยว ตัวเปลือกสีแดงด้านล่างทำจากการตีพริกแกงขึ้นเบสเป็นแป้ง แล้วจุ่มแป้นทรงใบไม้แล้วนำไปทอด ทำให้ได้เปลือกสีแดงสวยงาม
Appetizers
Bread & Butter
ขนมปังมันฝรั่ง ได้แรงบันดาลใจมาจากสามอย่าง คือ ซาลาเปาทอด ขนมไข่นกกระทา และขนมจีบและติ่มซำโบราณ รวมอยู่ในจานเดียว ตัวขนมปังทำมาจากแป้งโดมันฝรั่ง ทำให้เนื้อหนึบแน่นกว่าขนมไข่เต่า จากนั้นจะนำไปทอด รีดน้ำมันสองรอบ ทอดด้วยไฟต่ำ ทำให้เกิดความ Lean และมีกลิ่นหอม ในส่วนของแรงบันดาลใจจากขนมจีบติ่มซ่ำ จะอยู่ที่ตัวเนยสามอย่างด้านหน้า ตัวซ้ายสุด เป็นตัวเนยที่ผสมกับตัวจิ๊กโฉ่ว ด้านบนเป็นกระเทียมเจียว ตัวกลางเป็น onion chutney โ
ดยเอาหอมใหญ่ไปผัดกับสามเกลอ เหมือนกับตอนทำไส้ติ่มซำ และเนยสาหร่าย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวติ่มซำที่มีการห่อสาหร่าย โดยเอาสาหร่ายไปปั่นเป็น purée แล้วไปผสมกับเนยฝรั่งเศส และเพิ่มผงสาหร่ายด้านบนเพื่อเพิ่มความหอม สำหรับวิธีการทาน เชฟแนะนำให้ผสมทุกอย่างแล้วทานเพื่อให้ได้รสชาติภายในคำเดียว ซึ่งเนยทุกชนิดก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเองตามวัตถุดิบ ทำให้ได้รับความรู้สึกว่ากำลังทานติ่มซำอยู่จริง ๆ
Hokkaido Scallops ยำทวายสไตล์
นำตัวหอยเชลล์จากฮอกไกโด มาเคียวกับตัวซีตรัส เกลือ น้ำตาล ให้มีรสชาติของตัวหอยเชลล์มีความเข้มข้นและมีความเด้งหนุบ ซึ่งจานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวยำทวาย ที่เป็นเมนูโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งจานนี้จะมีการใส่ผักและผลไม้ตามผลไม้ตามฤดูกาลเข้าไปด้วย และมีตัวรากโกโบ ที่เป็นรากชนิดหนึ่งที่นำมาแล่บางๆ ไปทอดให้ได้ความกรอบ ตัวโฟมจะเป็นกะทิและใส่สมุนไพรไทยเข้าไปเพื่อเพิ่มความหอม และด้านล่างจะเป็นตัวซอสจากพริกแกงแดง ปลาแห้ง และตัวน้ำสต็อกปลา
เพิ่มความเปรี้ยวด้วยยูซุ เสิร์ฟแบบเย็น สามารถคลุกทุกอย่างแล้วทานร่วมกันได้เลย ซึ่งยำทวายจานนี้ สัมผัสได้ถึงรสชาติจากหอยเชลล์ที่เด้งดึ๋งหนึบหนับ และกลิ่นรสยำแซ่บๆ ได้อย่างชัดเจน ด้วยตัวหอยเชลล์และตัวซอสที่ออกเปรี้ยว แต่ไม่เปรี้ยวมากจนกลบองค์ประกอบอื่นๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น
Textures of Pork
เป็นหนึ่งใน Signature ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมูกระทะบ้านเรา ตั้งแต่ตัวอาหารจนถึงรูปแบบจานที่ทำคล้ายๆ กับจานหมูกระทะ โดยมีความพิเศษคือตัวหมูที่ทำเป็นเทอร์รีนแบบฝรั่งเศส จากการใช้ตัวหมูบดมารมควัน ให้มีความหอมเหมือนถูกเอาไปปิ้งย่าง ปั่นเป็นมูส และทำชั้นเพิ่มด้วยหมูสามชั้นและสันคอหมูที่นำไปแช่น้ำเกลือก่อนหนึ่งคืน นำมา Slow cooked แล้วประกบกันเป็นเทอร์รีน ปิดด้วยการย่างผิวด้านนอกให้มีความกรอบและนุ่ม ในขณะที่ตัว Side Dish เป็นตัวกระหล่ำปลีฝรั่งเศส เพิ่มสีด้วยตัวกระหล่ำม่วง ด้านใต้เป็นตัวครีมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซุปหมูกระทะ
โดยทำเป็นในรูปแบบคัสตาร์ด และมีเห็ดดองไว้ตัดรสชาติ ส่วนลูกกลมๆ สามเม็ด ทำมาจากแป้งมาม่า นำมาบดเป็นผง อบให้แห้ง แล้วนำมาทำเป็น ปอม ซูเฟล่ (pomme soufflé) เพื่อให้มีความกรอบและหอมกลิ่นกระเทียมเหมือนตอนทานมาม่า ส่วนตัวซอสจะเป็นพริกดอง งาขาวคั่ว ที่นำมาหมักรวมกัน ผสมกับตัวน้ำสต็อกหมูปั่นเป็น Emulsion ทำให้ได้ซอสหมูกระทะในรูปแบบใหม่ ซึ่งรสชาติเหมือนทานหมูกระทะ แต่จะได้รสสัมผัสที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยส่วนตัวชอบการที่ทำเนื้อหมูเป็นแบบเทอร์รีนมากๆ ทำให้ได้รสสัมผัสที่เนียนนุ่ม ทำให้จานนี้เป็นมากกว่าหมูกระทะ หรือจะเรียกว่าเป็นหมูกระทะแบบ Fine Dinning เลยก็ว่าได้ สมกับเป็นเมนู Signature จริงๆ ครับ
สำหรับ Side Dish จะเสิร์ฟเป็นชาวามูชิ เป็นไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น โดยนำตัวครีมไปรมควันให้มีความหอมเล็กน้อย นำน้ำสต็อกไป infused กับผักให้ได้สีสันสวยงาม และใส่ตัวเบคอนรมควันเพื่อเพิ่มความหอม ด้านบนเติมเห็ดหูหนูขาวที่นำไปลวกและดองให้มีความเปรี้ยวเล็กน้อย นำมาผัดให้มีรสชาติอุมามิและเพิ่มรสสัมผัส
Grouper Cheeks
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้มส้มโบราณ กลิ่นส้มชัดเจน ใช้แก้มปลาเก๋าดำเป็นเนื้อหลัก มีรสสัมผัสที่เด้งดึ๋งดั๋ง ในขณะที่แป้งด้านข้างจะเป็น Fish dumpling ข้างในเป็นมูสกวาที่นำไปปั่นกับสมุนไพรแล้วห่อด้วยแผ่นแป้ง มีลักษณะรสสัมผัสเหมือนแป้งฮะเก๋า ตัวน้ำซุปใช้กระดูกปลาที่นำไปอบและนำไปเคี่ยวกับไวน์ขาว และ infused ด้วยตัวเครื่องต้มส้ม และตัวแป้ง Side Dish มีสองอย่าง คือตัวโคนต้นหอม ที่นำไปหมักคล้าย ๆ แบบกิมจิ
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากส้มผักเสี้ยนนำไปชุปแป้งทอด และซุปสีเขียว ๆ ทำมาจากใบต้นหอมที่ทำเป็น emulsion และอีกชิ้นเป็นเกี๊ยวปลาทอดกรอบ เวลาทานสามารถตักตัวน้ำซุปและองค์ประกอบด้านใน ทานแกล้มกับตัว Side ด้านนอกได้เลย รสโดยรวมให้ความเปรี้ยวหอมสดชื่น
Main Courses
Spanish Octopus
ปลาหมึกไข่เค็ม ด้านล่างเป็นรีซอตโต้จากข้าวบาร์เลย์ ผัดกับซอสจากสต็อกจากปลาหมึกที่นำไป Slow cooked นำไปปั่นกับไข่เค็ม ไวน์ขาว และสมุนไพร ด้านบนเป็นปลาหมึกจากสเปน ที่นำไป Slow Cooked และนำไปย่าง แล้วโปะไข่เค็ม ด้านบนปลาหมึกจะเป็น celery หั่นเต๋าแล้วนำไปดองเพื่อเพิ่มความเป็นกรด เปลือกส้ม สมุนไพรไทย ประกอบด้วยใบมัสตาร์ด ดอกเฟนเนล ใบเชอร์วิล ใบแนสเทอเทียมที่จะมีรสชาติคล้ายๆ กับวาซาบิอ่อนๆ
ส่วนตัวโฟมรอบๆ ทำมาจาก ไวน์ขาว เหล้าจีน และยูซุ ตัวปลาหมึกนุ่มมาก ๆ ในขณะที่เมื่อทานทุกอย่างรวมกันจะทำให้ได้รสชาติของปลากหมึกไข่เค็มที่เนียนนุ่ม และมีรสเปรี้ยวหอมอ่อนๆ จากตัวซอสที่มีความเป็นกรดเบา ๆ ให้ความสดชื่นและความหนักแน่นในเวลาเดียวกัน
French Sea Bass
ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แกงคั่วหัวตาล เป็นแกงโบราณจากจังหวัดเพชรบุรี โดยตัวปลาใช้ตัว French Sea Brass จากฝรั่งเศส นำมาทำการรูลาด (Roulade คือการนำเนื้อมาทำให้เป็นก้อนกลม) โดยตรงส่วนกลางที่เป็นสีน้ำตาล ใช้จากผงที่อบจากกระดูกปลา ปั่นเป็นผงแล้วนำมาโรยให้กลิ่นและรสชาติของกระดูกปลาที่เด่นชัดขึ้น
จากนั้นนำเนื้อส่วนนี้ทำการมากงฟี (Confit) หรือการดองไว้ในน้ำมัน ซึ่งตัวน้ำมันใส่ตัวสมุนไพรไทยเข้าไปด้วย เสิร์ฟพร้อมกับแจงรอน เป็นห่อหมกย่างแบบโบราณ โดยจะมีรสชาติและรสสัมผัสที่หลากหลาย ด้านบนเป็นใบชะพลู ตัว Purée สีเขียวจะเป็นกะทิที่นำไป reduction กับสมุนไพร และอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นลูกตาลอ่อนที่นำไปบีบอัด สลายความชื้นให้มีความนุ่ม
โปะด้านบนด้วยตัวใบเซอร์เรล ตัวซอสจะทำจากตัวเครื่องแกงแดงและน้ำสต็อกปลา ทำเป็น emulsion โดยจะมีกลิ่นของกระชายบาง ๆ ให้ได้กลิ่นแบบแกงคั่วหัวตาล เสิร์ฟพร้อมตัวข้าวบุหรี่ ใช้ข้าวบาสมาตี้ นำมาหุงกับตัวน้ำสต็อกเห็ดมอร์เรลซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง และโรยด้านบนด้วยหอมแดงเจียว
ในเจลลี่ใส ๆ จะเป็นตัวอาจาร์ด ที่เซ็ทเป็นเจลลี่ด้วยเจลลาติน มีความเปรี้ยวอมหวาน เอาไว้ตัดเลี่ยนได้ วิธีการทาน สามารถนำข้าวให้จุ่มแกงทานเคียงกับปลาได้เลย เมื่อเลี่ยนก็สามารถทานกับอาจาร์ดเพื่อแก้เลี่ยนได้
New Zealand Wagyu Beef
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกาเหลาเนื้อเอ็นตุ๋น เนื้อใช้ตัว New Zealand Wagyu ส่วนสันใน เอาไปย่าง และ Graze ด้วยตัวน้ำมันเนื้อจากสมุนไพรไทย เสิร์ฟพร้อมตัว
Ragù ที่ทำเป็น Purée จากการนำเอ็นเนื้อไป Slow cooked และผัดกับตัวสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด แต่งด้านบนด้วยตัวกากหมูเจียว ด้านล่างเป็นตัวก้านคะน้าที่บีบอัดให้มีความกรอบ เพื่อรสชาติที่สมดุล ในขณะที่ตัว Purée สีเขียวจะเป็นสมุนไพรทุกอย่างที่อยู่ในชามเกาเหลาที่ผ่านการสกัด ให้มีความหอมของสมุนไพร และตัวเจลสีส้ม ๆ ด้านล่างลงไป ทำจากพริกน้ำส้ม โดยคั่วพริกให้หอม แช่น้ำส้มสายชู 1 คืน ปั่น และทำเป็นเจล
ในขณะที่ตัวซอสหลัก จะเป็นซอสไวน์แดงแบบฝรั่งเศส และ infused เครื่องยาจีนและสมุนไพรที่ทำน้ำซุปเกาเหลาที่ reduced เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งรสชาติของทั้งหมด ให้รสชาติเหมือนกำลังทานเกาเหลาชั้นดีโดยไม่ผิดเพี้ยน
โดยที่เนื้อมีความนุ่มเนียน ตัว Purée ต่าง ๆ ก็ล้วนให้ความรู้สึกถึงรสชาติของเครื่องเคียงและองค์ประกอบต่างๆ ของเกาเหลาอย่างชัดเจนจนน่ามหัศจรรย์ ในขณะที่ตัว Side Dish เป็นข้าวทอด ให้ความรู้สึกเหมือนทานเกาเหลากับข้าว ที่ on top ด้วยกระเทียมเจียวที่เจียวด้วยน้ำมันเนื้อทำให้มีความหอมเพิ่มขึ้น และอีกชิ้นหนึ่งจะเป็นลูกชิ้นเนื้อวากิว ที่โปะด้านบนด้วยเจลลี่ที่ทำด้วยน้ำจิ้มลูกชิ้นบุรีรัมม์ โดยการทาน เชฟแนะนำให้นำตัวข้าวทอดไปคลุกกับซอสต่างๆ แล้วทานเคียงกับลูกชิ้น คล้ายๆ กับทอดที่ทานเกาเหลา เป็นจานที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์บนเทคนิคชั้นยอด สมกับเป็น Signature Dish ของทานร้านอีกหนึ่งเมนู
Desserts
Sugar Cane (น้ำตาลอ้อย)
เป็นเหมือน Pre-dessert ที่เป็น Cleansing palate หลังจาก Main Course โดยจะได้รสจากน้ำอ้อยอย่างเต็มเปี่ยม และใช้ประโยชน์จากอ้อยมาทำของหวานในลักษณะต่าง ๆ เริ่มจากด้านล่างจะเป็นเจลลี่ ไอศกรีมซอร์เบ รวมถึงทำเป็นเจล ใส่องุ่นสดและเปลือกมะนาวเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสดชื่น ในขณะที่รสชาติให้กลิ่นหอมและความอันเป็นเอกลักษณ์ของอ้อยอย่างชัดเจน ร่วมกับความเปรี้ยวและหอมจากองุ่น ทำให้ความสดชื่นกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
Khao Lam (ข้าวหลาม)
เป็นเมนูข้าวหลามแบบ Reconstruct ด้านล่างเป็นข้าวเหนียวกะทิ โดยมีข้าวพองอยู่ด้านบน พร้อม Purée ถั่วแดง และเจลกะทิ ด้านข้าง และเป็นท้ายด้วยไอศกรีมข้าวคั่ว ให้ความรู้สึกเหมือนทานข้าวหลามแท้ ๆ ทั้งกลิ่นทั้งรส และกลิ่นการย่างอันเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับเพิ่มความโมเดิร์นด้วยไอศกรีม ทำให้เป็นของหวานสไตล์โมเดิร์นที่หนึ่งจานที่น่าชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์มาก ๆ
Petits Fours
ปิดท้ายมื้ออาหารอันน่าประทับใจนี้ด้วย Petits Fours ประกอบด้วยสามอย่าง คือ โอเลี้ยงยกล้อ (ลูกกลมๆ) ด้านบนเป็นไอศรีมกาแฟ ด้านล่างซอร์เบชอคโกแลต ขนมโสมนัส Reconstruct เป็นเค้กทรัฟเฟิล เติมกลิ่นมะพร้าว ด้านบนเป็นเจลกะทิ และสุดท้าย เป็นมันแกวแช่บ๊วย ที่ด้านบนเป็นตัวเจลมิ้นท์ เสิร์ฟพร้อมชาหรือกาแฟ ถ้าเป็นชาจะเป็น Vanilla Chamomile
โดยชุดคอร์ส Yesteryears มีราคาอยู่ที่ 3,990++ ต่อท่าน สามารถรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Instragram : Restaurant_int หรือติดต่อสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ Line @restaurant.int หรือเบอร์โทรศัพท์ 093 256 9995 ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 17.30 – 23.00 น. ซึ่งร้านนี้เป็นอีกร้านหนึ่งที่อยากจะบอกว่า ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
Kinandleisure.com
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
ร้านอาหารที่ดีที่สุดใกล้ฉัน
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด