Story : Nopmanee P. Jipjip / Photo : Pol.Capt. Kittin A Sun
วันนี้หลังจากชาว Kinandleisure.com ดูซีรีย์ The White Lotus ซีซันต์ 3 จบแล้ว คงทายโลเคชั่นที่ถ่ายทำกันได้ไม่ยากเลย โดยโลเคชั่นหลักนั้นถ่ายที่ Four seasons resort เกาะสมุย สถานที่ที่เต็มไปด้วยความรุ่มรวยทางความงามและโลกที่เต็มไปด้วยละครที่รอการเปิดเผย แต่ช้าก่อน! วันนี้เราจะไม่พาคุณขึ้นเครื่องบินไปถึงนั่น เราจะชวนคุณขับรถไปที่โรงแรม Four Seasons Bangkok ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแทน
เราจอดรถที่ชั้นใต้ดินขึ้นลิฟต์มาเจอโถงต้อนรับอันโปร่งโล่งเต็มไปด้วยดอกบัวสีขาวบนสายน้ำรอบๆ แล้วเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆจะพบกับ The Library ของ The Lounge อันเป็นหมุดหมายของเราในวันนี้
เพราะที่นี่จะทำให้เราอินกับซีรีย์ได้อย่างต่อเนื่องด้วย The White Lotus Afternoon Tea ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีซั่น 3 ของซีรีส์ HBO® Original Series The White Lotus
เราแจ้งชื่อที่จองไว้แก่พนักงาน แล้วเค้าจะพาเราเดินเข้าไปในโซนที่ได้รับการออกแบบใหม่ร่วมกับ HBO โดยมีแรงบันดาลใจจากฉากอันสวยงามและความลึกลับในซีรีส์ ให้ได้จินตนาการถึงพื้นที่ที่อบอวลไปด้วยดอกบัวสีขาวในทะเลลึก การตกแต่งที่หรูหราทุกมุมสะท้อนถึงความซับซ้อนและดราม่าของซีรีส์ มาค่ะแหวกม่านแล้วเดินตามเข้ามาในโรงละครกัน!
It’s showtime!
เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้นำทางเราเข้าสู่โลกแห่งละครได้แหวกม่านผ้าเพื่อทะลุมิติเข้ามาพื้นที่แห่ง The White Lotus อันดับแรกจะพบกับป้ายชื่อซีรีย์ The White Lotus ขนาดใหญ่ และตื่นตะลึงไปกับมุมดอกบัวยักษ์สีเหลืองที่กลางเกสรยังแอบมีงูสีเหลืองจากซีรีย์อยู่ด้วย (ช่างเหลืองเข้ากันถ้าดูเผินๆผ่านๆก็จะไม่รู้เลย) พร้อมกับฉากหลัง สระน้ำภายนอกที่ถูกเนรมิตให้เป็นสระบัวสีขาวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
อีก 2 มุมของห้องก็ไม่น้อยหน้ากันด้วยวอลเปเปอร์ลายใบไม้สีเขียวอ่อน ชวนให้นึกถึงความงามของป่าผสมกับวัฒนธรรม Afternoon tea แบบดั้งเดิมเสียนี่กระไร ไม่เพียงเท่านั้น ยังสอดแทรกบางประโยคจากหนังมาอีกด้วย โดยจะขอยกมาซักหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับเวลานี้พอดี “Welcome to the rest of your wonderful life”
แล้วก็ได้เวลานั่งลงบนอาร์มแชร์พิงหมอนกลีบบัวสีขาวสวยเก๋อันนี้ซักที เรากำลังจะได้ลิ้มลองชุดน้ำชาที่หัวหน้าเชฟประจำโรงแรม แอนเดรีย แอคคอร์ดิ และหัวหน้าเชฟขนมหวาน อันเดรีย โบนาฟินี ได้ร่วมมือกันสร้างประสบการณ์อาฟเตอร์นูนทีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ถ่ายทำอันเขียวขจีของเกาะสมุย
ไม่นานเลยเราจะถูกต้อนรับด้วยเครื่องดื่ม Crémant ที่ใช้วัตถุดิบไทยผสมผสานกับเทคนิคการผลิตคล้ายแชมเปญ ผลิตที่เขาใหญ่นี่เอง เสิร์ฟมาในแก้วแชมเปญขนาดย่อม ให้รสซาบซ่าสดชื่น
สัมผัสมิติใหม่ของความหอมละมุน – ชามะลิสกัดเย็น ณ The Lounge, Four Seasons Bangkok
ในโลกของชา เรามักคุ้นเคยกับชาร้อนหอมกรุ่นหรือชาเย็นที่ให้ความสดชื่น แต่สำหรับ Cold Brew Jasmine Tea หรือ ชามะลิสกัดเย็น จาก The Lounge, Four Seasons Bangkok แก้วนี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับเราอย่างแท้จริง
ความประทับใจแรก – แก้วใสน้ำแข็งลายดอกไม้ The White Lotus Logo
ก่อนที่เราจะได้ลิ้มรสชาติชานี้ สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ แก้วใสที่มีน้ำแข็งลายดอกไม้ The White Lotus Logo น้ำแข็งที่ไม่ได้เป็นเพียงก้อนใสๆ ธรรมดา แต่เป็น น้ำแข็งที่ถูกทำขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน มีลวดลายของกลีบดอกไม้อยู่ภายใน ราวกับเป็นงานศิลปะเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในแก้ว ทุกครั้งที่น้ำแข็งละลายช้าๆ ก็เหมือนดอกไม้นั้นกำลังเบ่งบานในน้ำชา เพิ่มความละเมียดละไมให้กับประสบการณ์การดื่ม
ชามะลิสกัดเย็น – ความหอมอันล้ำลึกจากมะลิ
จากขวดแก้วใบใหญ่ที่เสิร์ฟมาคู่กัน Cold Brew Jasmine Tea แก้วนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชาเย็นธรรมดา แต่เป็น ชาที่ทางโรงแรมลงมือสกัดเย็นเอง ผ่านกรรมวิธีที่ช่วยดึงรสชาติและกลิ่นหอมของมะลิออกมาได้อย่างเต็มที่
- การสกัดเย็น (Cold Brew) ทำให้ชาได้รสชาติที่บริสุทธิ์และนุ่มนวล ต่างจากการชงด้วยน้ำร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดรสฝาดและกลิ่นที่เข้มเกินไป
- ใบชามะลิคุณภาพสูงถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน ก่อนนำมาสกัดในน้ำเย็นเป็นเวลาหลายชั่วโมง กระบวนการนี้ ช่วยคงความหอมละมุนของดอกมะลิในระดับที่ลึกซึ้งและยาวนาน
- กลิ่นหอมของมะลิที่ได้จากการสกัดเย็นนี้ ไม่ได้หอมฉุนแบบน้ำหอม แต่เป็นความหอมบางเบา สดชื่น ราวกับเดินอยู่ท่ามกลางสวนมะลิที่เพิ่งผลิบานในยามเช้า
รสชาติ – บางเบาแต่ทรงพลัง สัมผัสได้ถึงความประณีต
เมื่อรินชาใส่แก้วและยกขึ้นจิบ สัมผัสแรกที่รู้สึกได้คือความสดชื่นที่พุ่งขึ้นมาทันที กลิ่นหอมของมะลิไม่ได้จางหายไป แต่ คลี่ตัวออกอย่างละมุนละไมในปาก
- รสชาติของชา มีความหวานจางๆ จากธรรมชาติของดอกมะลิ ไม่ใช่ความหวานจากน้ำตาล ทำให้รู้สึกสดชื่นและเบาสบาย
- โครงสร้างรสสัมผัสนั้น บางเบาแต่ทรงพลัง ไม่มีรสขมติดปลายลิ้นเหมือนชาที่ชงร้อนแล้วปล่อยให้เย็นตัวลง
- ทุกคำที่จิบ ให้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางสวนมะลิจริงๆ รายล้อมด้วยดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาในสายลม
ความลงตัวระหว่างศิลปะและธรรมชาติ
สิ่งที่ทำให้ชามะลิสกัดเย็นแก้วนี้โดดเด่น ไม่ใช่เพียงแค่กรรมวิธีการทำ แต่เป็น การนำเสนอกลิ่นและรสชาติของธรรมชาติออกมาอย่างงดงาม ทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งลายดอกไม้ที่ช่วยคงอุณหภูมิชาให้เย็นอย่างสมดุล หรือการเลือกใช้ขวดแก้วทรงสูงเพื่อให้สามารถหมุนวนชาและสูดกลิ่นหอมก่อนดื่ม ทุกอย่างสะท้อนถึง ความประณีตในทุกขั้นตอน
ขอกลับมาที่จานตรงหน้าเรา จะสะดุดตาด้วยตุ๊กตาลิงสีทองเกาะอยู่ที่ขอบจาน ที่เป็นตัวแทนของเหล่าลิงแสมบนเกาะสมุยมานั่นเอง เก็บรายละเอียดมาได้เหมือนตัวจริงเปี๊ยบ อุปกรณ์รับประทานล้วนเป็นสแตนเลสสีทองเหลืองดูหรูหราผสมแอนทีคได้อีก หรือแม้แต่จานก็ยังมีรูปดอกบัวอยู่กลางจานเช่นกัน
นี่เป็นนาทีที่ไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดยังไงถึงเวลาที่พนักงานยกแสตนดอกบัวของชุดน้ำชานี้ กับจานเล็กจานน้อยมาเสิร์ฟ เพราะมันสวยงาม ดีเริ่ด และน่าทานมาก! ไม่ว่าจะถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูปด้านข้าง Top view ก็ดูดีทุกมุมเลย ให้ตายเถอะซาร่า! ต่อไปเราให้รูปเล่าเรื่องแทนดีกว่า
เราขอลิ้มลองจานแรกกันที่ถ้วยหินอ่อนสีขาว 2 ชั้น ประดับด้วยกลีบดอกบัวสีชมพู Lotus Garden
ภายใต้ควันจางๆนั้นเป็นล็อบสเตอร์ไทยเนื้อสดหวานนำมาทำเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้น ในน้ำราดนั้นมีรสตะไคร้โดดเด่นกำลังดี นับว่าสร้างความประทับใจได้ดีตั้งแต่คำแรกเลย
ชิ้นที่ดูเหมือนขนมเบื้องเสิร์ฟมาบนโขดหินริมทะเลนี้เป็น Blue crab curry with Golden Wafers
ที่ไส้นั้นเป็นเนื้อปูก้อนสีขาวกับผักนิดหน่อย ชูรสเข้มข้นด้วยน้ำพริกเครื่องแกง ตัดกับเทกเจอร์ของแป้งขนมเบื้องผิวมันกรอบๆเป็นเปลือกด้านนอก ความฟินยังไม่จบ ชิ้นนี้เรียกได้ว่ากัดลงไปก็จะเจอเนื้อปูทุกคำเลย
ถัดมาที่ชิ้นติดกันบนโขดหินเป็น Duck Pate Larb with Crispy Rice & Thai Herbs
เพทลาบเนื้อเป็ดจะถูกบดละเอียดปรุงจนได้เนื้อผิวสัมผัสแบบฟัวกราส์ กับเจลลี่สีส้มเงามันด้านบน ท๊อปด้วยใบบัวบกผักพื้นบ้านของไทย ที่เรามักจะรู้จักกันจนพูดเล่นๆกันว่ากินใบบัวบกรักษาช้ำใน (แต่สรรพคุณนี้ของจริง) เนื้อเป็ดถูกวางลงบนข้าวตังกรุบกรอบที่ทำหน้าที่เสมือนตัวแทนของข้าวเหนียวที่มักจะทานคู่กับลาบไปในตัว ด้วย texture ที่แตกต่างกันนี้ก็ได้สร้างความสนุกสนานมากขึ้นด้วย
ต่อมาเรามาทานของว่างบนแสตนดอกบัวที่สวยงามนี้กันบ้าง
ณ ฝักบัวอันหนึ่ง Smoked eggplant Nam Prik with Tiger prawn
ชิ้นนี้โดดเด่นด้วยเนื้อกุ้งลายเสือหั่นวางเรียงมาเป็นกลีบดอกไม้ ด้านใต้แอบซ่อนน้ำพริกมะเขือที่เราคุ้นเคยกัน ใส่ในถ้วยทาร์ตลายกลีบดอกไม้อันบางกรอบ โดยรวมแล้วรสของน้ำพริกมะเขือจะคอยหยุดดึงรสชาติกัน เป็นหนึ่งคำที่หมดเร็วไปหน่อย และเนื้อกุ้งก็สดอร่อยมากด้วย
นี่คือลายละเอียดที่เพิ่มขึ้นของแต่ละเมนู รวมถึงที่มาและกระบวนการปรุงแต่ละจานให้สมบูรณ์แบบ
Pomelo Salad with Coconut Milk, Chili, Crispy Shallot
แรงบันดาลใจจาก ยำส้มโอ อาหารว่างไทยโบราณที่นิยมในราชสำนัก ซึ่งใช้ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวมาเป็นส่วนผสมหลัก เพิ่มมิติด้วยกะทิที่ให้ความละมุนและหอมเจียวที่ช่วยชูรส
ส้มโอพันธุ์ดีที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจะถูกแยกเป็นกลีบอย่างประณีต เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ฟูเต็มคำ จากนั้นนำไปคลุกกับ น้ำยำรสกลมกล่อมที่ประกอบด้วยน้ำมะนาวสด น้ำปลา และพริกขี้หนูซอยละเอียด ให้ความเผ็ดซ่าที่ค่อยๆ เผยออกมาในช่วงท้ายของคำ
ถ้วยทาร์ตแป้งบางกรอบถูกอบด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมจนได้ สีทองอ่อนและความกรุบกรอบสมบูรณ์แบบ แล้วบรรจงตักส้มโอที่คลุกเคล้าไว้ลงไป ด้านบนราดด้วย กะทิสดที่เคี่ยวจนหอมมัน เพื่อเพิ่มความละมุน และตกแต่งด้วย ดอกไม้ไทยขนาดเล็กและหอมเจียวที่ทอดจนกรอบสีทอง เติมความหอมและสร้างสมดุลของรสชาติ
Thai Tea Infused Madeleine, Sublime Cream
มัดแลน (Madeleine) ขนมฝรั่งเศสจากแคว้นลอร์เรน ถูกนำมาตีความใหม่ด้วยกลิ่นอายไทย โดยใช้ ชาไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเรา เริ่มจากการนำ ชาไทยชั้นดี ไปต้มกับนมสดแล้วกรองกากออก เพื่อให้ได้ น้ำชาสกัดเข้มข้นที่ให้กลิ่นหอมละมุนของใบชาและเครื่องเทศ ผสมเข้ากับแป้ง ไข่ และเนยที่ตีจนขึ้นฟู ก่อนอบในพิมพ์มัดแลนจนได้ เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน
ตัวครีม Sublime Cream ที่เสิร์ฟมาคู่กันคือ ครีมมูสเนียนละเอียดที่ผสมกลิ่นชาไทย ให้รสสัมผัสละมุนเมื่อรับประทานควบคู่กับมัดแลน ขนมชิ้นนี้ถูกเสิร์ฟบนภาชนะรูปทรงดอกบัวกำลังบายโดยกลีบดอกบัวสีขาว สะท้อนความสง่างามของอาหารไทยที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารโลก และความเชื่อมโยงกับ The White lotus
Tom Kha with Lemongrass & Coriander Essence
ต้มข่าไก่เป็นหนึ่งในซุปไทยที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่เมนูนี้เลือกนำเสนอในรูปแบบขนมหวานที่คาดไม่ถึง โดยดึงเอารสชาติของข่า มะกรูด และกะทิ มาสร้างสรรค์เป็นของหวานที่นุ่มนวลและซับซ้อน
ต้มข่าสกัดเข้มข้น ถูกปรุงขึ้นโดยใช้ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และมะนาว จากนั้นนำไปเคี่ยวกับกะทิสดให้ได้รสหอมมัน แล้วนำไปผสมเข้ากับเบสของคัสตาร์ดเนื้อละมุน
ด้านบนตกแต่งด้วย โดมโฟมกะทิที่ผ่านกระบวนการอัดไนโตรเจน เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสเบาฟูราวกับปุยเมฆ และโรยด้วย น้ำมันผักชีฝรั่งที่สกัดเย็น เพื่อเพิ่มมิติของกลิ่นสมุนไพร ด้านล่างรองด้วย แครกเกอร์สีเขียวที่ทำจากใบมะกรูดและสมุนไพรไทย เพื่อให้ความกรอบ สร้างสมดุลของเนื้อสัมผัส
Pink Lotus Passion & Mango Cheesecake
ชีสเค้กผลไม้เมืองร้อนในดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ดอกบัวไทย สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความรุ่งเรือง เริ่มจากการทำชีสเค้กด้วย ครีมชีสคุณภาพเยี่ยม ผสมกับน้ำแพชชั่นฟรุตและเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สุก ได้รสชาติที่มีทั้งความเปรี้ยวสดชื่นและความหอมหวานของผลไม้ ฐานของเค้กทำจาก แครกเกอร์ที่บดละเอียดและผสมกับเนยละลาย เพื่อให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ
ตัวชีสเค้กถูกหล่อเป็นรูปดอกบัวสีเหลืองทอง ซ้อนกลีบด้วยเทคนิคพิเศษ ส่วนเกสรของดอกทำจาก มูสเบอร์รีสีชมพูหวานฉ่ำ ตัดกันอย่างลงตัว เสิร์ฟมาบนใบตองสด ให้ความรู้สึกแบบไทยแท้ และช่วยส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ขณะที่รับประทาน
Coconut, Pandan, Mango Soft Serve
ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วงอาจดูเป็นของหวานที่เราคุ้นเคย แต่เวอร์ชันนี้ถูกออกแบบมาให้ มีสัมผัสที่นุ่ม หนึบ และละเมียดละไมกว่าเดิม ด้วยการใช้เทคนิคซอฟต์เสิร์ฟ เริ่มจากการนำ มะพร้าวสดและใบเตย ไปต้มและคั้นเป็นกะทิเข้มข้น ก่อนนำไปปั่นเป็นไอศกรีมรสใบเตย ผสมกับไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ให้รสหวานหอมของผลไม้เมืองร้อน
เสิร์ฟในแก้วทรงสูง จัดเป็นเลเยอร์ของไอศกรีมและข้าวเหนียวมูน ที่ผ่านการเคี่ยวด้วยกะทิและน้ำตาลมะพร้าวจนได้ความหวานที่สมดุล ด้านบนตกแต่งด้วยสมศรี เป็นของหวานที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดในทุกองค์ประกอบ
ทุกจานเป็นบทกวีแห่งรสชาติที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่ร่วมสมัย โดยเชื่อมโยงความเป็นไทยเข้ากับการนำเสนอที่วิจิตรตระการตา ให้ทั้งรสชาติและประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ชิ้นนี้ทำเป็นใบบัวสีเขียวอ่อนมีลายใบอย่างชัดเจนวางมาบนใบบัว เนียนจนเกือบลืมทาน Banana & smoked coconut ”
สัมผัสได้ถึงความหอมของมะพร้าวคั่วตั้งแต่คำแรก มีความหวานออกมาอย่างชัดเจนจากใบบัวด้านบน เนื้อนิ่มหยุ่นตัดกับรสสัมผัสของชิ้นล่างที่เป็นคล้ายข้าวพองทอดกรอบมา
ขนมชิ้นดอกบัวสีชมพู วางมาบนดอกบัวสีขาว เวลาทานนั้นหอมกาแฟและช็อกโกแลตหวานแบบคาราเมลไหม้ 🥰 ประกอบกับแครกเกอร์ที่ฐาน ให้หลับตาแล้วนึกถึงไส้ของสตรูปวาฟเฟิลฉบับย่อส่วน เปลือกบางๆหยุ่นๆสีชมพูนั้นไว้ห่อหุ้มขนมเฉยๆ มันจะเป็นชิ้นนึงที่คุณจะตกหลุมรักอย่างดิฉัน
ขนมชิ้นสุดท้ายของเราในมื้อนี้ Corn Tartlet, Whipped Corn Vanilla Ganache, Caramelized Popcorn ‘
เรียกง่ายๆว่าเรากำลังทานข้าวโพดคั่วรสคาราเมล ข้างใต้เป็นวิปข้าวโพดรสวนิลาและถั่ว macademia ในรูปแบบถ้วยทาร์ต มาเสริมให้หวานมันปิดท้ายเพลินๆกันไป เหมือนซีรีย์ที่สนุกจนไม่อยากให้จบก็ต้องจบลง
ขอปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มหลักของชุด Afternoon Tea ที่ขาดไม่ได้
Cacao Husk Tea – ความหอมอบอวลของโกโก้ในรูปแบบของชา
สำหรับผู้ที่หลงใหลในกลิ่นหอมของโกโก้แต่ต้องการสัมผัสรสชาติที่เบาและละมุนกว่าช็อกโกแลตร้อน Cacao Husk Tea คือทางเลือกที่น่าสนใจ ชานี้ถูกสร้างสรรค์จาก เปลือกของเมล็ดโกโก้ ที่ผ่านกระบวนการหมักและคั่วอย่างพิถีพิถัน ก่อนนำมาชงเป็นชาร้อนที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของดาร์กช็อกโกแลตและโน๊ตของถั่วและวานิลลา
เมื่อเทชาลงในถ้วย กลิ่นหอมของโกโก้อบอวลในอากาศ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย รสชาติของชานั้น นุ่มลึกและละมุนลิ้น มีความขมบางเบาตัดกับความหวานจางๆ จากตัวเปลือกโกโก้เอง โดยไม่มีการเติมน้ำตาล ทำให้รู้สึกถึงรสชาติที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับจิบคู่กับของหวานเบาๆ อย่าง Madeleine หรือ Scones เพื่อเสริมมิติของรสชาติ
Thai Lemongrass & Pandan Sparkling – ความสดชื่นแบบไทยในรูปแบบของเครื่องดื่มซาบซ่า
อีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่นคือ Thai Lemongrass & Pandan Sparkling เครื่องดื่มซ่าที่นำส่วนผสมของสมุนไพรไทยมาผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
เครื่องดื่มนี้ใช้ ตะไคร้และใบเตยสด ที่ผ่านการต้มเพื่อดึงน้ำมันหอมระเหยและรสชาติที่ซับซ้อนออกมา จากนั้นนำไปผสมกับ โซดาที่ให้ความซ่าอ่อนๆ พร้อมน้ำเชื่อมที่ให้ความหวานบางๆ ไม่กลบกลิ่นสมุนไพร แต่ช่วยดึงเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สีของเครื่องดื่มเป็นสีอำพันอ่อนๆ จากสารสกัดธรรมชาติ มาพร้อม ก้อนน้ำแข็งใสรูปทรงลูกบาศก์ที่ค่อยๆ ละลายอย่างช้าๆ ไม่ทำให้รสชาติของเครื่องดื่มเจือจางเกินไป เสริมด้วย ใบเตยสดและแท่งตะไคร้บางๆ เป็นเครื่องประดับในแก้ว เพิ่มมิติของกลิ่นหอมขณะยกดื่ม
เมื่อจิบเข้าไป สัมผัสแรกคือความสดชื่นของโซดาที่ซาบซ่าเบาๆ ตามมาด้วยกลิ่นหอมของใบเตยที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และจบท้ายด้วยรสของตะไคร้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาดปาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับดื่มคู่กับอาหารว่าง หรือจิบระหว่างวันเพื่อเติมพลังให้ร่างกาย
โดยรวมแล้วฤดูกาลนี้ขอเทใจให้ชุดน้ำชาชุดนี้เป็นชุดที่เริ่ดที่สุดในเมืองขณะนี้ (Best in town)
ไม่ว่าจะเป็นด้านรสชาติอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความสวยงามของพรีเซนต์เทชั่นที่ผ่านกระบวนการคิดทดลองมาหลายเดือน บรรยากาศที่เข้าตีมกัน ความเป็นไทยหลายๆอย่างที่แอบแฝงผสมผสานกันได้อย่างลงตัวนั่นรวมไปถึงการใช้วัตถุดิบไทยด้วยเช่นกัน นับว่าคุ้มค่ากับการที่ได้มาและกำลังถูกกล่าวถึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งถ้าไม่มาแล้วเดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง!
ข้อมูลสำคัญ
และอย่าลืม เมื่อทานชุด Afternoon Tea นี้เสร็จแล้ว เราจะแหวกม่านไปที่ฉากถัดไป พื้นที่ถ่ายภาพสุดพิเศษ ให้คุณได้เฉิดฉายอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ดอกบัวสีขาว ที่สงวนไว้ให้คนที่มาทานชุดน้ำชานี้ได้ถ่ายภาพร่วมเป็นที่ระลึกเท่านั้น พิเศษไปได้อีก
สามารถสำรองที่นั่งมาจิบชาเม้าท์ซีรีย์กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึง 20 เมษายนนี้
สำหรับการสำรองที่นั่ง กรุณาคลิกที่นี่ หรือโทร 02 032 0885 เพื่อจองที่นั่ง(ที่นั่งมีจำนวนจำกัด)
โดย The White Lotus Afternoon Tea จะให้บริการทุกวันในเวลา 11:00, 13:00 และ 15:00 น.
ประสบการณ์จะมีระยะเวลา 1.5 ชั่วโมง ในราคา 2,500++ บาทต่อท่าน
นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีย์ The White Lotus ด้วยเช่นกัน
อ่านต่อที่นี่
Kin Review
Kinandleisure.com
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์