Chef : เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi), เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast), เชฟนิโคลัส อิสนาร์ด (Nicolas Isnard), เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini) และเชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) Date : 09 2022
Story / Photo : Pol.Capt. Kittin A

เวียนบรรจบครบมาอีกปีกับการเฉลิมฉลองเทศกาลอาหารและไวน์ที่ดีสุดกับสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ซึ่งทางโรงแรมภูมิใจนำเสนอ งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 22 งานยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก เมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม ตั้งแต่วันอังคารที่ 6 กันยายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565

ความพิเศษของงานเปิดเทศกาลเวิลด์ กูร์เมต์ ในปีนี้ พบกับการรวมตัวกันของ 5 เชฟชื่อดังระดับโลก ซึ่งบินตรงมาเพื่องานนี้ คือ เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi), เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast), เชฟนิโคลัส อิสนาร์ด (Nicolas Isnard), เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini) และเชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) โดยเชฟแต่ละท่านรับผิดชอบอาหารแต่ละคอร์ส เพื่อรังสรรค์เมนูพิเศษ 5 คอร์ส ราคา 8,500++ รวมไวน์แพริ่ง ในงานกาลาดินเนอร์ วันที่ 6 กันยายน 2565 ณ ห้องบอลรูม

รายได้จากการจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารมื้อค่ำ 600 บาทต่อ 1 ใบ และรายได้ทั้งหมดจากการประมูลของรางวัลจะนำไปร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิอนุเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ต่อไป


เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi) จากห้องอาหาร Botanique ฝรั่งเศส

Ginger and Garden Herbs Madeleine
Oscietra Caviar by Kaviari
จานแรกนำเสนอโดยเชฟซูจิโอะ ยามากูจิ ซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือ มัดเดอแลน (Madeleine) สมุนไพร ทำให้สีต่างจาก Madeleine โดยสีจะออกอมเขียวขี้ม้า สำหรับ Madeleine คือ ขนมอบชิ้นเล็กๆ รูปทรงเปลือกหอย เป็นการรวมกันที่สมบูรณ์แบบของคุกกี้เนย กับเค้กเนื้อฟองน้ำ ที่เนื้อสัมผัสจะกรอบนอก นุ่มใน และละมุนลิ้น ชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย มีต้นกำเนิดที่แคว้นกร็องแต็สต์ (Grand Est) เมืองกอแมร์ซี (Commercy) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยจากบันทึกมีการจดบันทึกว่าน่าจะเริ่มทำกินกันตั้งแต่ช่วงปี17XX และด้วยการที่เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ มีความนิยมชมชอบในการนำพืชผักสมุนไพรมาใช้ในการประกอบอาหารเป็นเอกลักษ์ เมนูนี้จึงผสมเอาพืชผักสมุนไพรผสมลงไปด้วย รสนั้นจะออกหวานตามแบบ Madeleine แต่มีกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ พิเศษเพิ่มความเค็มๆและสัมผัสกรุบกรึบด้วย Oscietra Caviar ซึ่งทำจากไข่ปลาสเตอร์เจียน ไข่คาเวียร์ชนิดนี้มีความแน่นและใหญ่กว่าขนาดใกล้เคียงกับเบลูก้า ส่วนใหญ่เป็นสีเทามุกหรือดาร์กเฮเซล รสชาติสดชื่นด้วยความมัน เด้ง มีกลิ่นหอมโดนเด่น รสชาติอบอวลในปาก หนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาถึงรสชาติที่อร่อย และเพิ่มความสุดชื่นเหมือนวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าและสวนสมุนไพรในฝรั่งเศษช่วงฤดูร้อนด้วยพริกไทยสดและขิงที่อยู่ด้านบน Madeleine

สำหรับจานนี้ จะจับคู่กับ Cava “Anna” Blanc de Blancs Reserva Brut, Codorniu, Cava DO, Catalonia, Spain, N.V

ลักษณะที่ปรากฏ สปาร์คกลิ้งตัวนี้มีสีเหลืองซีดสะท้อนแสงสีทอง ฟองละเอียดและเรียงตัวสวยพุ่งป็นลูกประคำ กลิ่นหอมชัดเจนของยีสต์และผลไม้สีขาวสุก เข้มข้น รสชาติอร่อย คล่องตัวและสมดุล สดและค้างอยู่ในคอนาน เมื่อดื่มกับอาหารแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น เป็นดั่งเครื่องประกอบที่ดีต่อกัน
เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast) จากห้องอาหาร Graphite เนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว


Fillet American
Beignet | Beans | Radish | Seaweed
สำหรับเมนูนี้ด้านบนโดดเด่นด้วย Beignet ที่เชฟบรรจงทำออกมาเป็นรูปผีเสื้อ ซึ่ง Beignet ออกเสียงว่า ben-YAY เป็นภาษาฝรั่งเศส มีความหมายในภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า fritter ที่แปลว่า แป้งทอด และ แน่นอนค่ะว่า beignet ก็คือขนมที่ทำมาจากแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก แล้วนำมาทอดนั่นเอง โรยด้วยถั่วและสาหร่าย ส่วนฐานด้านล่างสีชมพูมาเจนต้าคือ เนื้อส่วนฟิเลมิยอง (filet mignon) ของอเมริกัน ซึ่งเป็นชื่อในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงเนื้อส่วนปลายแหลมของเทนเดอร์ลอยด์ (tenderloin) หรือเนื้อสันในซึ่งเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด นำมาบดกับ Radish ได้สัมผัสนุ่มๆหนึบๆ

สำหรับจานนี้ จะจับคู่กับ Furmint, “394”, Almásy, Tokaj, Hungary, 2015

เชฟนิโคลัส อิสนาร์ด (Nicolas Isnard) จากห้องอาหาร Auberge de la Charme ฝรั่งเศส ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว

Red Mullet
Confit Eggplants | Galangal and Tamarind Gel | Apple and Saffron Emulsion
จานนี้เชฟ Nicolas Isnard ซึ่งเคยได้มาเยือน ณ Anantara Siam ในงาน World Gourmet Festival ครั้งหนึ่งแล้ว ใช้เนื้อปลากระบอกแดง หรืออีกชื่อคือเนื้อปลาหนวดฤาษีสดๆ ส่งตรงจากทะเล แล่เอาก้างและกระดูกออกจนหมด คงไว้แค่เนื้อปลาล้วนๆ สีขาวนวล ผิวหนังสีชมพูเข้ม เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม อร่อย โดยนำเนื้อปลาไปซูวีและเซียร์ที่ผิว มีส่วนฐานเป็นกงฟีมะเขือม่วงที่สัมผัสนุ่มนิ่มรสหวานอูมามิ ด้านบนเป็นอิมัลชั่นแอปเปิ้ลผสมแซฟฟรอนให้สีออกเหลืองทอง และหยอดเจลข่ามะขามรสหวานอมเปรี้ยว ตัวซอสรสเข้มข้นสไตล์ฝรั่งเศส เมื่อจับคู่กับไวน์จะช่วยเพิ่มสมดุลให้กับรสชาติดียิ่งขึ้น

สำหรับจานนี้ จะจับคู่กับ Verdejo-Malvasia, Discolo, Toro DO, Spain, 2018

เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini) จากห้องอาหาร Materia อิตาลี ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว

Australian Lamb
Artichokes | Pecorino Cheese
จานนี้เชฟ Davide Caranchini ให้เนื้อแกะเป็นตัวเอกของจาน ซึ่งเชฟเลือกใช้แกะจากประเทศออสเตรเลียนำมาย่างในระดับ medium rare เนื้อด้านนอกมีความเกรียมเล็กน้อยและภายในยังนุ่มฉ่ำ และแดงอมชมพู เสริมรสด้วยซอสสุดพิเศษของเชฟ เสริมรสเค็ม มัน และอูมามิ ที่ควรจับคู่กับไวน์แดงที่ค่อนข้าง full body โดยด้านบนประกอบด้วย แก่นตะวันและ ชีสเพโคริโน โดย Pecorino Romano (เปโกริโน่ โรมาโน่) หรือ ที่ คอน คาลหม่า เรียกง่ายๆว่า เปโกรีโน่ ชีสนมแกะ เป็นชีสทำจาก นมแกะ 100% (คำว่า Pecora เปโกร่า ในภาษาอิตาเลียนแปลว่าแกะ) ชีสตัวนี้มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุคโรมัน รสชาติเค้าจะเค็มๆ มีสีเหลืองซีด จนออกขาวนวลๆ แต่ผิวขอบเค้าจะสีน้ำตาลเข้มนะคะ เวลาลูกค้าไปเจอตามร้านขายชีส จะเห็นว่าขอบนอกแข็งๆออกน้ำตาลไหม้ๆ แต่ข้างใน ขาว/เหลือง เปโกริโน่บางรุ่นเรียกว่า Pecorino Romano Genuino จะมาจากจากแคว้น Lazio (ที่ตั้งเมือง โรม หรือ โรม่า เมืองหลวงของอิตาลี่) เพราะออริจินัล ว่ากันว่า เป็นต้นตำรับการผลิตชีสตัวนี้ ซึ่งเจ้าชีสตัวนี้เป็นหนึ่งใน 10 ชีสที่ชาวอิตาลียกย่องว่าอร่อยที่สุดด้วย เพียกแต่คนไทยเราอาจไม่ค่อยได้ยินหรือไม่รู้จักครับ

สำหรับจานนี้ จะจับคู่กับ Amarone della Valpolicella, Bella, Amarone Classico DOCG, Veneto, Italy, 2015
เชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) จากห้องอาหาร Pretty Sweet สหราชอาณาจักร

Citrus Eton Mess
Meringue | Calamansi Chantilly | Lemon Posset | Freeze Dried Mandarins
| Blood Orange Jelly | Ivory White Chocolate
สำหรับจานนี้จัดได้ว่าเป็นของหวานที่ลงตัวและเข้ากันได้ดีกับจากก่อนหน้า เพราะจากรสชาติที่เข้มข้นมากๆ มาเจอของหวานที่ไม่หวานและหนักไป แต่ให้รสและความรู้สึกที่เบาและเปรี้ยวอมหวาน

เชฟอนุพงศ์ นวลฉวี (เชฟเอ๋) Anantara Siam, Pastry Chef ประเทศไทย


Petit Fours and Mignardises
สำหรับ Petit Foursนี้ จะจับคู่กับ
8,500++ รวมไวน์แพริ่ง
วันอังคารที่ 6 กันยายน 2565 เวลา 18:30 น.
ห้องบอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ
โดยรายได้ส่วนหนึ่งและ การประมูลของรางวัล จะนำไปร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิอนุเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ในพระอุปถัมภ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งงานเทศกาลอาหารและไวน์ชั้นเลิศครั้งที่ 22 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ โทร. 0 2126 8866 หรือ เว็บไซต์ www.worldgourmetfestival.asia
เมนูของค่ำคืนสุดแสนพิเศษ <คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดรายการอาหารที่เชฟทุกคนร่วมกันรังสรรค์>
Kin Review
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์