พลาดไม่ได้กับเชฟสเตฟาโน เชฟระดับมิชลิน 2 ดาว ชาวแคว้นมาร์เค ของอิตาลี เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดเชฟของโลก จัดอันดับโดยซานเปลเลกรีโน (San Pellegrino) เขาทำให้ห้องอาหารของโรงแรมสุดหรู วิลล่า เฟลทริเนลลี่ (Villa Feltrinelli) ติดทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) ในประเทศอิตาลีได้รับมิชลินสตาร์ถึง 2 ดวง เชฟได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากจากการนำพืชผักและสมุนไพรที่เขาปลูกเอง ณ สวนริมทะเลสาบของโรงแรม และนำมาใช้ในการปรุงอาหารอย่างสร้างสรรค์ แค่ 5 วันเท่านั้น
Pol.Capt. Kittin A.
The Allium Bangkok – ห้องอาหารฝรั่งเศสเปิดใหม่ ที่ถูกแปลงโฉมมาจากห้องอาหารเดิมอย่าง The Reflexions ให้เป็นห้องอาหารสุดหรูสีแดง ในส่วนของห้องอาหารตั้งอยู่บนชั้นสาม ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก นี่เองครับ
สำหรับเชฟรับเชิญ ดีกรีมิชลินสองดาว นั้น ก็คือ Chef Stefano Baiocco เชฟชาวอิตาเลี่ยน ผู้ที่เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดเชฟของโลก จัดอันดับโดยซานเปลเลกรีโน (San Pellegrino) เขาทำให้ห้องอาหารของโรงแรมสุดหรูอย่าง วิลล่า เฟลทริเนลลี่ (Villa Feltrinelli) ติดทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) ในประเทศอิตาลีได้รับมิชลินสตาร์ถึง 2 ดวง
โดยเชฟจะมารังสรรค์อาหารอิตาเลี่ยนที่นี่ แค่ 5 วันเท่านั้น คือ 6 – 10 พฤศจิกายน นี้เท่านั้น ครับ มีทั้งมื้อกลางวัน และ มื้อเย็น นะครับ
สำหรับวันนี้เราจะมาลองมื้อเย็น 9 คอร์สกัน ก่อนเสิร์ฟคอร์สแรก เขาก็จะเสิร์ฟขนมปังเชียบัตต้าอุ่นๆ ผิวนอกกรอบ ค่อนข้างหนา ข้างในเหนียวนุ่ม
Ostrica al naturale, cetriolo arrosto e salsa di kiwi
Raw oyster, roasted cucumber and kiwi sauce
คอร์สแรก จะเป็นหอยนางรมสด เสิร์ฟมาบนแตงกวาย่าง และ ซอสกีวี่ ด้านบนวางใบออยสเตอร์ สำหรับเนื้อสัมผัสของหอยนางรมดีมาก มีความเด้ง ทานแล้วให้ความรู้สึกถึงทะเล ส่วนแตงกวาย่าง มีรสหวานนิดๆในตัว พอทานร่วมกับหอยนางรม รู้สึกว่าเนื้อสัมผัสของทั้งสองอย่างมันผสมกลมกลืนเข้ากัน ได้ซอสกีวี่เปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมของกีวี่โดดขึ้นมา พอทานทุกอย่างด้วยกัน มันให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
Royale di pollo, insalata di granchio e ricci di mare
Chicken royale with crabmeat and sea urchins
จานต่อมา เสิร์ฟมาในชาม สีสันโดดเด่น ลองตักดู ข้างล่างจะคล้ายๆไข่ตุ๋น แต่เนื้อสัมผัสจะนุ่มละมุนกว่า จากการไถ่ถาม เขาบอกว่าส่วนนี้ ใช้ซุปใสไก่ มาผสมกับไข่ และ นม นั่นเอง ในสัดส่วนที่พอเหมาะพอเจาะ ทำให้เนื้อออกเป็นครีมๆ รสชาติอ่อนๆ ด้านบนจะเป็น เนื้อปู และ ไข่หอยเม่น เนื้อปูมีรสชาติหวาน และหอม ส่วนไข่หอยเม่น มีความนุ่ม พอเข้าปากรู้สึกได้ว่ามันละลายหายวับไปเลย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวอ่อนๆ ด้านบนโรยด้วยผงล็อบสเตอร์ และ เมล็ดบัควีทกรุบกรอบ นอกจากจะช่วยเพิ่มสัมผัสให้กับจานนี้แล้ว ยังให้กลิ่นหอมอ่อนๆด้วย พอทานไปเรื่อยๆ มันมีบางจุดที่มีรสเปรี้ยวๆ คล้ายกลิ่นของน้ำส้มสายชูด้วย
L’insalata di salmone e foie gras. Avocado, mela verde e zucchine in lamine.
Salmon salad with foie gras. Avocado, green apple and sliced zucchini
คอร์สที่สาม จานนี้จะเป็นสลัด โดยจากการที่ลองแยกดู เขาจะมีการพันผักเป็นกรวย แล้วมีไส้ที่แตกต่างกันสองแบบ อย่างแรกจะเป็นซูกินีไส้แซลมอนรมควันและไข่ปลาแซลมอน ซูกินีมีความกรอบ แซลมอนรมควัน มีความหนึบ ความเค็ม ความหอม และได้ความเค็ม หอมกลิ่นโชยุของไข่ปลาแซลมอน และ อีกแบบจะเป็นอโวคาโดไส้ฟัวกราส์ อันนี้มีเนื้อสัมผัสไปทางเดียวกัน นุ่มๆ มันๆ แต่ได้กลิ่นที่โดดเด่นของฟัวกราส์ออกมา ข้างล่างจะมีเจลพอนซึ รสชาติเข้มข้น ออกเปรี้ยวๆเค็มๆ นอกจากนี้จะมีผักผลไม้ต่างๆ แซมรอบๆ ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัส และ รสชาติให้กับจานนี้ ได้แก่ แอปเปิ้ลเขียว เรดิช ใบแมงลัก และไมโครกรีน อย่าง เรดชิโซะ และ แอทซินา ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
I tortelli di pasta fresca ripieni di branzino arrostito e zeste di limone. Consommé’ di agrumi.
Tortelli stuffed with roasted seabass and lemon zest. Citrus consommé’
คอร์สต่อมา เป็นทอร์เทลลีไส้ปลากะพง ในซุป Citrus consommé แป้งบาง หลงเหลือสัมผัสกรึบๆ ตรงบริเวณขอบ ไส้จะเป็นเนื้อปลาบด มีความเป็นครีมๆ แต่มีเนื้อปลาเป็นชิ้นเล็กๆบ้าง รสอ่อน ส่วนซุปรสชาติค่อนข้างโดด รสชาติคล้ายเจลจานก่อนหน้า แต่อาจจะได้กลิ่นของเลมอนปลายๆ
I paccheri “ Gerardo di Nola “ glassati al burro ed imbottiti con carne cruda di manzo e guanciale di maiale
Paccheri pasta glazed in butter and filled with beef tartare and served with cured pigs cheek
ต่อมาเป็นปั๊กเครี่ หรือ พาสต้าทรงหลอดยักษ์ เคลือบด้วยเนย เสิร์ฟบนจานมาสองชิ้น ชิ้นแรกจะเสิร์ฟแฮมจากแก้มหมูด้านบน แฮมรสชาติออกเค็มๆ หอมๆ มันๆ คล้ายๆอย่างปาร์มาแฮม แต่อาจจะมีความมันกว่า ต้องบอกก่อนว่าพาสต้าทำมาได้ ‘Al Dente’ พอดีเลยครับ ส่วนอีกชิ้น จะสอดไส้ด้วย Beef Tartare ที่มีการปรุงมารสได้อย่างดีเยี่ยมทั้งรสเค็มมันหวานและสัมผัสที่นุ่มนิ่มไปกันได้อย่างดีเยี่ยมลงตัวกับเส้นพาสต้าแบบอัลเดนเต้
Trancio di rombo cotto in olio di oliva. Crema di ceci, salsa al prezzemolo ed “ Anconetana “
Slice of turbot braised in olive oil. Chickpea cream, parsley sauce and seafood
คอร์สนี้จะเป็นจานปลา เชฟใช้เป็นปลาเทอร์บอท หรือ ปลาตาเดียวนั่นเอง นำไปตุ๋นในน้ำมันมะกอก เนื้อปลามีความนุ่มดี สุกกำลังดี วางบนซอสรากูปลาหมึก และ ครีมถั่วชิคพีรสชาติอ่อนๆ ราดด้วยซอสพาร์สลีย์ เสิร์ฟคู่กับ ถั่วชิคพีกรุบกรอบ และ บ๊อกฉ่อย ส่วนตัวสำหรับจานนี้รู้สึกว่ารสชาติหลักจะอยู่ที่รากู มีรสชาติออกเค็มๆ แต่มีความกลมกล่อม ส่วนอื่นๆก็มีรสชาติแต่อาจจะไม่ได้โดดเด่น เป็นรสชาติธรรมชาติของเขา อาจจะมีการปรุงเล็กน้อย จะได้ตรงเนื้อสัมผัสมากกว่า อย่างความนุ่มจากเนื้อปลา ความกรุบกรอบของถั่ว หรือ ความเนียนนุ่มของครีมชิคพี นอกจากนี้ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของพาร์สลีย์ ด้วยครับ
Filetto di agnello cotto al forno. Mandorle, capperi ed olive. Jus di peperoni arrostiti
Oven roasted lamb filet. Almond, capers and olives with roasted pepper jus
คอร์สสุดท้ายของอาหารคาว เป็นจานเนื้อ เชฟใช้เป็นเนื้อแกะอบ เนื้อสุกกำลังดีครับ เชฟจับคู่กับส่วนประกอบต่างๆในจานได้ดี ซึ่งบางอย่างไม่คิดว่าจะเข้ากับเนื้อ อย่าง เคเปอร์ เพราะโดยทั่วไปเรามักจะเห็นว่า เคเปอร์เขามักจะนำมาทานคู่กับพวกปลามากกว่า แต่อันนี้ถือว่า เข้ากันได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ก็ได้ความกรุบกรอบของถั่วอัลมอนด์ ความหวานจากลูกเกด ความหอมและความเค็มจากมะกอก ทุกอย่างมันเสริมรสชาติให้กับเนื้อได้เป็นอย่างดี
Crespella di latte gratinate e farcita con spuma allo yogurt magro e zenzero. Sciroppo al rosmarino
Milk crepe filled with a low-fat yogurt foam and ginger. Rosemary syrup
มาถึงของหวานแล้ว คอร์สรองสุดท้าย ต้องออกตัวก่อนว่า จานนี้ประทับใจมากๆ เป็นเครปนมโยเกิร์ต ที่ดูจะธรรมดาๆ แต่มาดูจริงๆ ค่อนข้างมีรายละเอียดทีเดียว ตัวเครปที่ว่า เชฟใช้วิธีการต้มนมให้เกิดเป็นชั้นฟิล์ม น่าจะคล้ายๆกับการทำฟองเต้าหู้นั่นแหละครับ ห่อหุ้มโฟมโยเกิร์ตนุ่มเบา รสชาติอ่อนๆ หวานๆ ทีเด็ดคือการปาดเอาน้ำเชื่อมโรสแมรี่เข้าไปผสมตอนทานด้วย และ ทานแผ่นสีแดงๆกรอบๆ ซึ่งมีกลิ่นขิง เข้าไปพร้อมกัน มันช่วยเพิ่มมิติของกลิ่นได้สุดยอดมากๆเลยครับ นอกจากนี้ยังได้กลิ่นน้ำตาลไหม้จากการเผาน้ำตาลบนฟองนมอีกด้วย
“Il tartufo”
“The truffle”
คอร์สสุดท้ายของวันนี้ ต้องให้กับการนำเสนอมากๆ คือ ชื่อของจานคือ Truffle เขาเลยจำลองเหมือนเก็บเห็ดทรัฟเฟิลในฤดูใบไม้ร่วง มีเห็ดทรัฟเฟิล มีใบไม้ มีกรวด มีลูกไม้ อยู่ในชาม จากนั้นเขาก็จะมาตักเสิร์ฟจากชามนั้นให้เรา โดยรูปลักษณ์ของเห็ดทรัฟเฟิล ค่อนข้างคล้ายทีเดียว ต้องบอกว่าใบไม้ หรือ กรวดในนั้นก็สามารถทานได้ สำหรับตัวเห็ดทรัฟเฟิลนั้น เป็นมูสไวท์ช็อกโกแลต มีกลิ่นของกาแฟ และเห็ดทรัฟเฟิลอ่อนๆ ทานคู่กับแป้งใบไม้ และ กรวดที่ทำมาจากธัญพืชกรุบกรอบ ก็ถือว่าโอเคครับ
เซ็ตเมนูมื้อกลางวัน 3 คอร์ส ราคา 2,688++ บาท ต่อท่าน / 5 คอร์ส ราคา 3,888++ บาท ต่อท่าน
เซ็ตเมนูมื้อค่ำ 7 คอร์ส ราคา 6,288++ บาท ต่อท่าน / 9 คอร์ส ราคา 7,288++ บาท ต่อท่าน
มื้อกลางวัน 12:00 – 14:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 14:00 น.) และ มื้อค่ำ 18:30 – 22:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 22:00 น.)
สนใจสอบถาม หรือ สำรองที่นั่งได้ที่ 02 650 8800 และ [email protected]
Stefano Baiocco, Michelin star, fine dining, italian cuisine, the athenee a luxury collection, review
Kin Review
Kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว