วันเดียวเท่านั้น กับ การร่วมมือกันรังสรรค์มื้ออาหารสุดพิเศษให้กับคุณ โดยเชฟชื่อดัง จากร้าน Sushi Zo และ ร้าน La Bottega di Luca
วันนี้ทาง Kinlakestars.com ได้รับเชิญมาร่วมลิ้มชิมรสอาหาร เทสติ้งมื้อพิเศษ เนื่องจากอาหารในวันนี้ จะถูกสรรสร้าง โดยเชฟ Andrea จากร้านอาหารอิตาเลี่ยน อย่างLa Bottega di Luca ซึ่งเป็นโฮสในวันนี้ และ เชฟ Toshi จากร้านอาหารญี่ปุ่นดีกรีมิชลินสองดาว อย่าง Sushi Zo นั่นเอง ซึ่งวันนี้เชฟได้ทำอาหารทั้งหมด 6 คอร์ส ด้วยกัน โดยจะขายแค่วันที่ 24 กันยายนนี้ เท่านั้น นะครับ
ระหว่างรออาหาร ก็ชิมขนมปังไปพลางๆก่อน
เรามาเริ่ม ในฝั่งของเชฟ Andrea ก่อนเลย นั่นก็คือ Warm Sashimi in Amalfi Coast
เป็นซาซิมิปลาคินเมะไดที่ถูกจัดวางบนหัวไชเท้าฝอย และแครอทฝอย ปลาถูกเผาไฟที่ผิวเล็กน้อย โรยมาด้วยไข่ปลาแซลมอนเล็กน้อย และ ในชามมีน้ำซุปรสชาติกำลังดี รสอ่อนๆ หอมๆ เหมาะสำหรับการเริ่มต้นของมื้อเป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็จะมีเห็ดให้สัมผัสกรึบๆเวลาเคี้ยวด้วย
สลับมาฝั่งเชฟ Toshi กันบ้าง จานนี้คือ I’ll leave it to you
เป็นชีสบูราต้าหมักในโชยุ และ สาเก เชฟแบ่งเป็นสี่ฝั่ง แล้วตกแต่งด้วยท๊อปปิ้งต่างๆ ได้แก่ ปลาทูน่า เทมปุระสาหร่าย และ เทมปุระใบชิโสะ คือ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบชีสบูราต้ามากๆ และ ได้ลองชิมชีสที่ถูกนำไปดัดแปลงแบบนี้อีก มันยิ่งทำให้รู้สึกอยากลิ้มลองไปอีก พอได้ทานชีสมีความหอมของโชยุขึ้นมา และ ได้ทานกับส่วนประกอบต่างๆที่นำมาวางบนชีส แล้วบอกเลยว่า มันดีจริงๆ ชอบๆๆ แต่ละคำ มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นสัมผัส หรือ กลิ่นก็ตาม ส่วนการจัดจานก็ดูสวยงามมากๆ ด้วยสี และ องค์ประกอบต่างๆบนจาน
โดยสตาร์ทเตอร์ทั้งสองจานนี้ จะทานคู่กับ Ferrari Maximum Brut,NVนะครับ
มาจานหลักกันต่อ ในฝั่งของเชฟ Andrea จะมีสองจานด้วยกัน จานแรก คือ Sardinian Hosomaki
จานนี้เชฟต้องการนำเสนอออกมาให้มีลักษณะคล้ายอาหารญี่ปุ่น นั่นก็คือ ‘ซูชิ’ นั่นเอง โดยเชฟทำซูชิในรูปแบบของพาสต้า โดยเชฟใช้พาสต้าแบบ Paccheriคือ มีลักษณะท่อ สำหรับจานของเชฟจะสอดไส้ด้วย Hamachi tartar คือ เชฟจะหั่นเนื้อปลาฮามาจิให้เป็นชิ้นเล็กๆ ราดด้วยซอสข้นๆ รสชาติออกเค็มๆมันๆ อย่าง Bottarga Sauce ตกแต่งด้วยหอย และ ชีส และสุดท้าย โรยด้วยผงสาหร่าย ตัวเส้นพาสต้ามีความกรึบ เวลาทานรวมๆกัน เราจะได้ความนุ่มจากเนื้อปลาฮามาจิ และความเค็มเพิ่มจากซอส ด้วยชีสที่ตกแต่งมาในจาน และ ได้ความหอม และ สัมผัสที่เหนียวนุ่มของหอย
จานนี้จะจับคู่กับ Pietragrande Chardonnay Sauvignon Tenute Lunelli, 2017
และอีกจาน Between Florence and Kobe เชฟใช้เนื้อวากิว หมักด้วย โชยุ และ ซอสหอยนางรม
เนื้อที่มีความนุ่ม มีมันแทรกในตัวอยู่แล้ว มีความสดและฉ่ำ ความหอมหวานอมเค็ม และกลมกล่อมจากซอสโชยุ และซอสหอยนางรมที่ให้กลิ่นอายแบบโลกตะวันออก และสีที่สวยสดงดงาม เย้ายวลได้อย่างดีเยี่ยม
จานเนื้อจะจับคู่กับ ไวน์แดง อย่าง Carapace Sagrantino di Montefalco Tenute Lunelli, 2011
ส่วนจานหลักของเชฟ Toshi นั่นเก็คือ Chef Toshi’s Signature
เป็นซูชิ สามคำ แต่พอได้ทานบอกเลยว่า สมกับคำว่า’ซิกเนเจอร์’ จริงๆ คือ แต่ละคำมันมีรายละเอียดของมัน และ รสชาติของแต่ละคำมันคือที่สุด เชฟแนะนำให้เริ่มจาก ปลาเนื้อขาวอย่างปลากะพงแดง ก่อน จากนั้นตามด้วย ปลาคัมปาจิรมควัน และปิดท้ายด้วย อุนิอิคุระ หรือ ไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน นั่นเอง
คำแรก-เนื้อปลาสีขาว ถูกบั้งให้เป็นริ้วๆ แต้มวาซาบิสดลงบนเนื้อปลาเล็กน้อย และ ขูดผิวส้มยุซุลงไปปิดท้าย คือ ตอนที่จะหยิบชิ้นซูชิเข้าปาก กลิ่นของยุซุมาฟุ้งขึ้นมาเลย เนื้อปลามันมีความนุ่มดีทีเดียว และ พอเคี้ยวเราจะได้รสชาติและกลิ่นของวาซาบิขึ้นมาอ่อนๆ นอกเหนือจากกลิ่นของส้มยุซุ ชิ้นนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นดีครับ
คำที่สอง – ชิ้นนี้ดูว่าไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน แต่ขอบอกเลยว่า กลิ่นรมควันของชิ้นนี้ ไม่แพ้ชิ้นแรกเลย ความรู้สึกเดียวกับชิ้นแรกเลย คือ ก่อนที่จะเข้าปาก กลิ่นหอมรมควันตีขึ้นจมูกอ่อนๆ และ พอเคี้ยว กลิ่นหอมๆจากการรมควันก็ฟุ้งไปทั่วปาก ส่วนสัมผัสของเนื้อปลาชิ้นนี้จะออกแนวกรึบๆ หน่อยครับ
คำที่สาม – คำนี้เสิร์ฟมาบนช้อน โรยด้วยอิคุระ และ วางอุนิด้านบน อุนิที่เขาใช้จะเป็น บะฟุนอุนิ เนื่องจากตัวนี้จะกลิ่นจะเบากว่ามุราซากิอุนิ ทำให้เวลาทานคู่กับอิคุระ ตัวของอุนิจะไม่ได้นำอิคุระไป พอได้ทานคือ มันนุ่ม มันละลาย มันกลมกล่อม มันละมุนไปหมดเลย นอกจากนี้ก็มีกลิ่นหอมของสาหร่ายอีกด้วย
วันนี้พิเศษมากๆ ได้ลองชิมสาเกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าดีงามมากๆ ตัวแรก Junmai Daiginjo รสชาตินุ่มๆ สดชื่นๆ ตัวนี้ทานคู่กับปลาเข้ากันดีทีเดียว ส่วนอีกตัว Kinku Sarari จะออกแนว Dry หน่อย ตัวนี้เขาแนะนำให้ทานกับอุนิ จะดีมากๆ
และตบท้ายด้วย Aromatic Minestrone Soup
ซึ่งพูดถึง ซุปชนิดนี้มันคืออาหารคาวนี่นา เป็นซุปผักสไตล์อิตาเลี่ยน แต่วันนี้เชฟได้แปลงโฉมให้ซุปนี้กลายเป็นจานหวานสไตล์เชฟนั่นเอง คือ เป็นผัก ผลไม้ นำมาหั่นชิ้นเล็กๆ และ ตักเป็นลูกกลมๆเล็กๆ ขนาดพอๆกัน อาทิเช่น เซลารี่ สตรอว์เบอรี่ แครอท ถั่วลันเตา เป็นต้น เสิร์ฟอยู่ในน้ำซุปเย็นๆ รสหวานอ่อนๆ และ วางไอศกรีมข้าวสีนิล ไว้ด้านบนเป็นอันเสร็จ เวลาเราทาน จะได้สัมผัสต่างๆของผักผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นนุ่มๆ หรือ กรอบๆ ได้กลิ่นหอมของข้าวในไอศกรีม
เกือบลืมแนะนำของพื้นฐานแต่อร่อยๆไปเลย ขิงดองที่ทาง sushi zo ทำขึ้นมาเอง อร่อยและตัดรส ตัดเลี่ยนล้างปากได้ดีมาก
และถ้าใครเป็นนักดื่มนักกิน บอกเลยว่าติดตามเรากันไว้ดีๆ เพราะที่ร้านแห่งนี้จะคอยจัดดินเนอร์ที่เชิญเชฟชั้นเลิศมาร่วมสร้างสรรค์อาหารสุดเลิศอยู่เรื่อยๆ
Story : Krangkrai T.
Photo : Pol. Cap. Kittin A.
KinlakeStars.com
japanese cuisine, fine dining, review, italian cuisine sushi zo
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว