ด้วยสิทธิพิเศษของคนอ่านและ Kinlakestars.com เราจะไปแอบดูเชฟสาธิตการทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นมื้อนี้ให้ดูคนละจานกันก่อนวันจริงค่ะ ซึ่งการสาธิตนี้ได้จัดขึ้นที่ Issaya Siamese Club ห้องอาหารไทยย่านสาธรที่หลายคนคุ้นเคยกันดี
ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของห้องอาหารแห่งนี้ก็มักจะมีของทานเล่นมาให้เราได้ทานกันไปพูดคุยกันไปก่อนจะเริ่มมื้อจริงกันค่ะ
ดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของห้องอาหาร Sra Bua by Kiin Kiin ก็ได้ถูกนำมาด้วย ใจกลางของดอกบัวเป็นปูผัดผงกะหรี่ เนื้อปูเต็มๆกับรสผงกะหรี่กำลังดีจำนวน 1 คำถ้วน
ท่ามกลางก้ามปูสีแดงอมส้มอันน้อยใหญ่ มีชิ้นปอเปี๊ยะล็อบสเตอร์ แป้งกรอบบางเฉียบม้วนมาเป็นท่อนเล็กๆจนคิดถึงขนมทองม้วน และด้านในสอดไส้เนื้อล็อบสเตอร์มา
ดูเผินๆจะนึกว่าชิ้นนี้เป็นเบอเกอร์จิ๋ว แต่แท้จริงแล้วเป็นไก่สะเต๊ะ มีไก่ทอดกรอบ มีชิ้นหอม รวมๆแล้วเปรี้ยวหวานสดชื่นดีค่ะ และยังมีแผ่นกรอบๆด้านล่างเปลี่ยนเทกเจอร์ปิดท้ายให้ด้วย
ชิ้นนี้เสิร์ฟมาแบบควันหอมฉุยในครอบแก้วมาเลยค่ะ ไส้อั่วไก่
ไส้กรอกรมควันชิ้นโต โดดเด่นด้วยรสสมุนไพรซาบซ่านขึ้นมา
งานนี้เชฟทั้งสามท่านร่วมกันเฉพาะกิจเพื่อรังสรรค์และโชว์ทักษะฝีมือการปรุงอาหารไทยแนวใหม่ ที่ใช้เทคนิคในการทำแตกต่างออกไปตามสไตล์ของแต่ละคน โดยนำเสนออาหารทั้งหมด 6 เมนู ซึ่งได้ผ่านการรังสรรค์ขึ้นมาอย่างปราณีตและปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมใส่ไอเดียและนวัตกรรมใหม่ๆเพิ่มเข้าไป เป็นการเปลี่ยนหน้าตาของอาหารจานนั้นๆให้แตกต่างไปจากอาหารไทยจานเดิมที่เราคุ้นเคย ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารจานพิเศษที่ไม่สามารถหารับประทานที่ไหนได้
ส่วนสาธิตการทำอาหารวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันด้วยเชฟเบิ้มค่ะ กับอาหารเรียกน้ำย่อยแบบชาววัง “แสร้งว่าปลา” ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมากจาก “แสร้งว่ากุ้ง” อาหารไทยโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
โดยส่วนแรกเชฟจะเริ่มจากการนำไข่ปลาค็อดลงไปคลุกเคล้าในหม้อตั้งเตา ใส่กระชาย ตะไคร้ เมล็ดพริกไทย น้ำกะทิ ใบกะเพรา และเครื่องปรุงอื่นๆ แล้วตักออกมาใส่หนังปลาค็อด
อีกส่วนหนึ่ง น้ำยำ จะนำสมุนไพรต่างๆ รากผักชี พริกสด น้ำมะกรูด น้ำมะนาว น้ำตาลมะพร้าว ลงไปตำให้เข้ากันในครก เติมเกลือ น้ำตาล อีกเล็กน้อย นำเนื้อปลาค็อดที่นำไปแช่แข็งไว้หนึ่งคืน จนวันรุ่งขึ้นเอาออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ ฝานแตงกวาเป็นชิ้นบางๆมารอง
จานนี้ถึงแม้ว่าเชฟจะเปลี่ยนส่วนผสมหลักให้เป็นเนื้อปลาค็อดแทน ก็ไม่ได้ทิ้งลายของแสร้งว่าเลยแม้แต่น้อย รสชาติยังคงโดดเด่นด้วยความเปรี้ยวของน้ำมะนาว ความกลมกล่อมหอมของสมุนไพรต่างๆ ยังคงความเป็นยำอยู่โดยครบถ้วน
จานที่ 2 อาหารจานหลัก จากเชฟเอียน กับแกงขี้เหล็ก ที่นำเนื้อโคขุนโพนยางคำ เนื้อไทยโกเบเกรดพรีเมี่ยม ระดับ A5 มาทำ
ตอนนี้เชฟจะขอมาจัดการกับพระรอง อย่างแกงขี้เหล็กกันก่อน ด้วยใบขี้เหล็กสดนั้นต้องการการลวกน้ำ 3-4 รอบ เพื่อให้ความขมละออกไปจนหมดก่อน หลังจากนั้นตั้งกระทะใส่หัวกะทิสดที่เคี่ยวไว้ล่วงหน้า พริกแกงแดงที่ทำเอง หมู 3 ชั้น ปลาเค็ม ใส่กระชาย ใบมะกรูดเล็กน้อยลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊ป จนได้ที่
ส่วนเนื้อโพนยางคำ A5 Short Rib นำไปนึ่งที่อุณหภูมิ 58 องศา ถึง 2 วัน จนความสุกเป็นแบบ Medium rare ให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดของเนื้อออกมา
ตักแกงขี้เหล็กใส่จานและนำเนื้อโพนยางคำมาวางไว้ด้านบน โปรยพริกซอยสีแดงๆไปรอบๆ
แกงขี้เหล็กอุ่นๆรสกลมกล่อม มีรสเผ็ดขึ้นมาเล็กๆกับรสของกะทิเข้มข้นแฝงอยู่ ทานคู่กับเนื้อนุ่มละมุนลิ้นกำลังดีเลยค่ะ
และขนมหวานจากเชฟเฮนดริก ที่เขาได้หยิบเมนูขนมไทยยอดนิยมอย่าง “มะพร้าวแก้ว” มานำเสนอในรูปแบบใหม่ ผ่านเทคนิคการปรุงในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยจะเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมแกงเหลืองสไตล์ไทย สัปปะรดหมัก และ เลม่อนเมอแรงก์ เป็นต้น
สับปะรดที่นำไปอบกับตะไคร้และสมุนไพรอื่นๆทั้งคืน ราดด้วยไฟที่มีเชื้อหลักจากเหล้าแม่โขงอันขึ้นชื่อของไทย
ใน Bowl นี้มีผงกะหรี่ มะพร้าว นม เกลือ ไนโตรเจนเหลวที่ทำให้เกิดความเย็นและหมอกควันคลุ้ง
จานนี้พวกเรามัวแต่ถ่ายรูปกันเพลิน จนเชฟออกปากเตือนว่าให้รีบทาน เพราะชิ้นสับปะรดร้อนๆกับไอศกรีมแกงเหลืองเย็นๆมาเจอกันอยู่
จานนี้มีความหวานๆหอมๆมีน้ำจากเนื้อสับปะรด รสชาติเฉพาะตัวของเหล้าเบิร์นอยู่ด้านใน ตะไคร้ซอยชิ้นเล็กๆกับความซ่าเล็กๆตามมา นับว่าเป็นการปิดท้ายวันนี้ได้ดีเลยล่ะค่ะ
ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ 3 เชฟผู้มีชื่อเสียง “เฮนริค อูล แอนเดอร์เซน” แห่งร้าน Kiin Kiinโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก “เชฟเอียน กิตติชัย” เชฟผู้โด่งดังแถวหน้าของประเทศไทย และเจ้าของร้านอาหารไทย อิษยา สยามมิส คลับ และ“เชฟเบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์” หัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการได้รับดาวมิชลิน จะมาร่วมกันรังสรรค์อาหารไทยสไตล์โมเดิร์นมื้อนี้พร้อมสาธิตให้ทุกท่านดูทุกขั้นตอนการทำทั้งหมด 6 คอร์ส (คนละ 2 คอร์ส)
นำพาทุกท่านให้ได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของอาหารไทยในสไตล์แปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยนำคอนเซ็ปต์ศิลปะกึ่งการแสดงของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ที่เน้นย้ำถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับเชฟและทีมงานทุกคน เสมือนกับลูกค้าทุกท่านมานั่งชมโชว์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของอาหารแต่ละจาน มาดัดแปลงให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของดินเนอร์มื้อพิเศษนี้ ช่วยเปลี่ยนมื้ออาหารที่แสนธรรมดาให้เป็นอีกหนึ่งมื้อแห่งประสบการณ์ที่เหนือระดับ
ในราคาท่านละ 5,800บาท++ รวมเครื่องดื่มไวน์จับคู่กับอาหารครบทุกหกคอร์ส
ในมื้อดินเนอร์ คืนวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2561 เพียงค่ำคืนเดียวเท่านั้น
ที่ห้องอาหารมิชลินสตาร์ 1 ดาว Sra Bua by Kiin Kiin, Siam Kempinski hotel Bangkok
*ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อท่าน ยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%และค่าบริการ 10%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้
โทร +66 (2) 162 9000 หรืออีเมล์ [email protected]
และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ห้องอาหารสระบัวบายกินกินได้ที่ http://www.srabuabykiinkiin.com
Story : Nopmanee P.
Photo : Pol. Cap. Kittin A.
KinlakeStars.com
michelin stars, issaya, wine dinner, thai cuisine, sra bua, siam kempinski, fine dining
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว