Sra Bua by Kiin Kiin นำเสนออาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่ง สไตล์โมเดิร์นที่น่าสนใจ ทั้งรูปลักษณ์ รูปแบบการนำเสนอ วัตถุดิบชั้นเลิศ และแน่นอนที่สุดว่ายังคงความเป็นรสชาติของอาหารไทยอย่างที่เราคุ้นเคยกันอยู่ ภายใต้การรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันโดยเชฟเฮนริคและเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ ซึ่งทำให้ห้องอาหารแห่งนี้ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาวมาแล้วเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมานี้เอง อีกทั้งยังได้เป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurant) ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปีในปี 2557 และ 2558
ในวันนี้ Kinlakestars.com จะพาไปผจญภัยตื่นตาตื่นใจไปกับเมนูสุดสร้างสรรค์ชุดใหม่ สำหรับฤดูหนาวที่จะถึงนี้ โดยเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากทั้งในประเทศไทย อาหารไทยจานที่เชฟชอบ และจากที่เดนมาร์กบ้านเกิดของเชฟเอง ภายใต้บรรยากาศของห้องอาหารอันน่ารื่นรมย์ที่เน้นการตกแต่งส่วนใหญ่ด้วยไม้สีน้ำตาลเข้ม ไม้ต่อเป็นลายฝาปะกนที่เพดาน หลังคาทรงหน้าจั่วประดับลายไทยสีทองที่ทำให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือสระบัวลอยดอกบัวสีขาวสวยงามอยู่กลางร้าน
ก่อนที่เราจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ เชฟได้เตรียมเมนูให้ทานรองท้องกันเบาๆก่อน ที่เล้าจ์ของห้องอาหารเอง ทางขวามือ ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่ามีหลายตัวเลยที่น่าสนใจ และคุณจะแอบคิดอยู่ในใจว่าเชฟนำมาจับคู่ให้เข้ากันได้อย่างน่าประทับใจได้ยังไงกันเนี่ย?
.
ท่านผู้อ่านลองทายดูกันนะคะ ว่าชิ้นไหนเป็นก้อนถ่านจริงๆ กับชิ้นไหนที่ทานได้?
ที่ทานได้จะเป็นเมอแรงก์ผสมคาร์บอนสีดำสนิทเนื้อพองฟูที่ไม่หวาน ให้ทานคู่กับวาซาบิครีมที่จะได้รสวาซาบินิดเดียวให้พอเผ็ดๆตามแบบเค้าขึ้นมา
หลายคนคงสงสัยเหมือนกับดิฉันตอนแรก นี่ขนมครกคาร์เวียร์นี่มาได้ยังไงกันนะ แต่มาได้ค่ะ เข้ากันได้ดีเลยทีเดียวด้วยเนื้อขนมครกที่มีกะทิเยอะแยะแอบมีเกลือ Sea salt ซ่อนอยุ่ทำให้ชิ้นนี้มีรสเค็ม แล้วไปป๊ะกับคาร์เวียร์ออนท๊อปค่ะ เป็นการจับคู่กันด้วยของไทยๆพื้นบ้านกับของฝรั่งที่หรูหรา นับว่าสร้างสรรค์ดีค่ะ
อันนี้มาในถ้วยกะละที่เค้านำมาวาดลวดลายใส่สีสันต์สวยงาม คล้ายกับที่เราเห็นเขานำมาขายนักท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ใส่เปลือกหอยนางรมที่มีน้ำซุปสีส้มน้ำต้มยำ กับผักชุบแป้งทอดกรอบๆ ให้ทานคู่กันได้รสเปรี้ยวๆดีค่ะ
ในวันนี้ห้องอาหาร Sra Bua by Kiin Kiin จัดโต๊ะได้สุดดีจริงๆค่ะ ได้ใจสาวๆอย่างเรายิ่งนัก เพราะทั้งโต๊ะถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นไฮเดรนเยียร์ ทิวลิป และช่อดอกไม้พร้อมการ์ดลายเซ็นต์ของเชฟเฮนริคให้เราได้ถือกลับบ้านไปด้วย
หรือแม้แต่กระถางใบน้อยตรงหน้าที่เต็มไปด้วยดอกเดซี่และเบญจมาศสีขาว มีหลอดสีน้ำตาลเข้มปักอยู่ ยังเป็นน้ำตะไคร้ที่ออกหวานหอมนุ่มนวลให้เราได้ดื่มกันด้วย
ในถ้วยใบใสมีดอกบัวสีขาวลอยน้ำอยู่ดอกหนึ่ง ตรงกลางซ่อนยำปลาแซลม่อนรสเปรี้ยวกลมกล่อม ซาบซ่านด้วยขิงเป็นพระรอง ท๊อปด้วยข้าวเกรียบกรอบแผ่นบางมีรูเหมือนฝักบัว
จานนี้เป็นความรู้สึกเกี่ยวกับการมาถึงเมืองไทยครั้งแรกของเชฟ ต้มโคล้ง อาหารไทยโบราณในรูปแบบใหม่ในวันนี้ เสิร์ฟมาก่อนด้วยถ้วยเปล่าๆอุ่นๆ เทน้ำซุปลงไปทำให้ถ้วยนี้มีรสเค็มๆของปลาแห้งและร้อนซาบซ่านอยู่ในตัว ทานกับหัวล็อบสเตอร์ย่างให้ได้ตักได้ขูดมันสีส้มๆออกมา ที่ต้องบอกว่า มันดีมากเลยค่ะ บนฝาไม้ไผ่สานมีส่วนเนื้อล็อบสเตอร์วางแผ่มาแบบดิบๆที่มีการเติมมะนาวมาแล้ว (จะทำให้สุกนิดนึง) บนข้าวเกรียบกุ้งชิ้นบางกรอบ
.
จานต่อไปพนักงานมาสาธิตการทำน้ำยำให้ดูถึงขอบโต๊ะด้วยค่ะ
ก่อนอื่นพนักงานจะเติมพริกลงไปโขลกในครกให้ละเอียดก่อน เติมน้ำตาลโตนด น้ำมะนาว อโวคาโดเจลลี่ แล้วได้เป็นน้ำยำออกมา
ราดน้ำยำลงไปในจาน
ยำเนื้อ จานนี้เก๋ไก๋ด้วยการซ่อนเนื้อวากิวดิบ No.5 ไว้ใต้แผ่นเยลลี่แตงกวาแผ่นใส ท๊อปด้วยน้ำยำที่มีอโวคาโดเยลลี่เป็นชิ้นลูกเต๋า แล้วมีเหล่าผักชี ใบสะระแหน่มาช่วยเติมเต็ม เป็นจานที่ให้คนทานได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของยำ ความเปรี้ยวจากมะนาวที่เด่นชัด ซาบซ่านไปกับรสเผ็ดของพริกอยู่ลึกๆที่แม้คนไม่ทานเผ็ดก็สามารถทานจานนี้ได้
การผสมผสานของอาหารไทยและอิตาเลียนที่นุ่มนวล ข้าวรีซอตโต้แกงเขียวหวานและกุ้งมังกร เสิร์ฟมาในจานสีเงินแวววาวทรงแปลกตา ตั้งแต่คำแรกที่ตักเข้าปากไปจะสัมผัสได้ถึงรสของแกงเขียวหวานในข้าวรีซอตโต้ที่ลงตัว เราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกสำหรับรสชาติของแกงเขียวหวานที่อยู่กันครบในทุกคำที่ได้ทานนี้ และชิ้นเนื้อล็อบสเตอร์ที่ถูกซ่อนอยู่ด้านในตรงกลาง เนื้อนุ่มหนึบจากความสดของกุ้ง เหล่าผักใบเขียว ถั่วปากอ้า กุ้งแห้งตัวจิ๋ว ช่างเข้าทำให้เข้ากันได้แบบพอดีๆ
จานนี้พนักงานจะยกทั้งเตามาให้เราหยิบกันคนละไม้เลยค่ะ ปลาหมึกย่าง ซอสถั่ว ปลาหมึกย่างไม้หนึ่งจะมาแบบ 3 ชิ้น ตามความหมายตรงตัวของ สะเต๊ะ ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย โดยเชฟได้เล่าให้ฟังถึงนโยบายที่ประเทศเดนมาร์ก ที่มีปลาหมึกเยอะมากจนรัฐบาลต้องออกมาขอร้องให้ประชาชนนำไปกินบ้างเลยทีเดียว และที่นี่เราก็มีหนวดปลาหมึกชิ้นโตหนึบๆราดน้ำจิ้มสะเต๊ะ กลิ่นเหมือนเนยหอมหวาน กับซอสผงกะหรี่สีส้มๆทานคู่กับ Onion Tapioca ชิ้นกรอบๆพองๆ
เชฟเล่าให้ฟังถึงจานนี้ว่าทำให้เขานึกถึงตอนหิมะตกที่เดนมาร์ก ทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนไปหมด ต้มข่าเย็นไก่กรอบ เสิร์ฟแบบเย็นสมชื่อด้วยการเติมไอน้ำแข็งแห้งลงไป เติมน้ำต้มข่าร้อนๆลงไปจนเกิดควันคลุ้งไปทั่วจาน ให้เขย่าๆชามซักเล็กน้อยให้เข้าที่กัน เราก็จะได้ต้มข่าแบบเย็นค่ะ จานนี้รสชาติความเข้มข้นของกะทิกับรสสัมผัสของเครื่องข่านี่ก็กินขาดแล้วค่ะ เพิ่มเติมด้วยชิ้นฝักข้าวโพดอ่อนย่างมากำลังหวานๆ ชิ้นมะนาวดองที่เปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ ไก่กรอบที่มีเทกเจอร์ที่ตัดกัน และที่จานนี้ยังมีลูกเล่นกับตัวเนื้อจานอีกด้วย เวลาตักน้ำซุปจะเป็นเสียงแครกๆของพื้นผิวที่ขระขระ (เหมือนถ้วยที่เราใช้สากเล็กๆบดงาให้ละเอียดในร้านอาหารญี่ปุ่นเลยค่ะ)
จากอาหารไทยจานแรกที่เชฟได้ชิมและติดใจในรสชาติ เมื่อคราวที่มาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน พะโล้ จนมาถึงจานนี้ พะโล้ตับห่าน ตอนที่พนักงานมาเทน้ำซุปใส่ชามให้นี่กลิ่นของน้ำพะโล้ลอยหอมฟุ้งมาเตะจมูกมากค่ะ ฟัวกราส์อบมาทำให้เนื้อนุ่มหยุ่นต่างจากการย่างที่มักจะเจอกันนัก ส่วนที่พิเศษกว่าได้ซ่อนอยู่ในน้ำซุปที่เชฟได้นำเอาเห็ดจากเชียงรายมาทำกรรมวิธีพิเศษผสมกับเครื่องเทศต่างๆจนกลมกล่อมเข้ากันดี มีแคปหมู ราวิโอลีไส้หมูสับที่หลายคนออกปากชม
.
ความตื่นเต้นของมื้อนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มาลุ้นกันต่อกับของหวานกันค่ะ
ภายในถ้วยกระเบื้องสีเขียวอ่อนมีฝาปิดมี ไอศกรีมเชอรี่กับโฟมลิ้นจี่ รออยู่ โฟมลิ้นจี่สีชมพูหวานกำลังดีมีเนื้อลิ้นจี่ซ่อนอยู่ด้านใต้กับความหวานหอมครบครัน เสริมด้วยไอศกรีมเชอรี่อยู่ด้านล่างอีกที และอย่าลืมทานที่ฝาด้วยเป็นเมอแรงกุหลาบชิ้นเล็กที่หวานไปอีกแบบนึง อีกทั้งกลีบกุหลาบสีแดงก็ช่วยแต่งแต้มสีสันต์ให้มากขึ้นและยังทานได้ด้วยค่ะ
ถ้วยนี้ใครเห็นก็ต้องว้าวค่ะ และโปรดเตรียมกล้องกันไว้ให้ดี ข้าวเหนียวลูกพีช มีสายไหมสีเหลืองอ่อนทรงกลมวางอยู่บนปากแก้ว แล้วพนักงานจะค่อยๆบรรจงราดน้ำเชื่อมลงไป สายไหมจะค่อยๆละลาย เกิดเป็นภาพที่สวยงามมากค่ะ ตักไอศกรีมสีส้มเข้มที่มีเนื้อส่วนใหญ่เจือด้วยเนื้อลูกพีชอย่างไม่ต้องสงสัย กับชิ้นเนื้อเต็มๆที่ด้านล่าง และข้าวเหนียวมูนหอมๆค่ะ
ก่อนจะจากกันเชฟยังมีของเล่นเล็กๆน้อยๆมาให้ชิมกันอีกด้วยค่ะ
เป็นที่รู้กันดีว่าของเล่นเลโก้ที่เราเคยได้เล่นกันตอนเด็กนั้นมาจากเดนมาร์ก และเชฟเป็นคนเดนมาร์กที่ภูมิใจในชาติของตนยิ่ง จึงหยิบเลโก้ชิ้นนี้มาให้เราเล่นกันด้วยค่ะ ลองเลือกกันดูว่าชิ้นไหนทานได้ และชิ้นไหนทานไม่ได้
ชิ้นที่ดิฉันหยิบมาได้เป็นวุ้นใสๆสีน้ำตาลอ่อนรสกาแฟค่ะ
.
พริก ที่ให้ทั้งความเผ็ด หอม เป็นวัตถุดิบหลักอย่างหนึ่งของอาหารไทยก็กลายเป็นอื่นได้
กลายเป็นไวท์ช็อกโกแลต
คราวนี้พนักงานยกต้นส้มที่มีลูกส้มอยู่เต็มต้นมาเลยทีเดียว
แล้วตัดส่งให้คนละผล ให้ทานเข้าไปทั้งลูกเลยนะคะ เพราะข้างในเชฟแอบใส่น้ำส้มเขียวหวานไว้ แล้วเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตแบบลูกส้มจริงๆที่ด้านนอกอีกที
ถาดนี้เห็นเข้าอาจจะแปลกใจ พนักงานเขายกมาทำไมกันนี่ เป็นก้อนหินสีขาวล้วนๆเต็มถาดเลย แต่ลองเลือกดูดีๆนะคะว่าชิ้นไหนที่ทานได้
ข้างในเป็นองุ่นสดเคลือบน้ำตาลนั่นเอง
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน
เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน 12.00 -15.00 น.
สำหรับเซตเมนูมื้อกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 1,850 บาท ++ ต่อท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม)
มื้อค่ำเปิดให้บริการเวลา 18.00 – 24.00 น. (สั่งอาหารเซตเมนูมื้อค่ำได้ถึงเวลา 21.00 น.)
เซตเมนูมื้อค่ำแนะนำได้แก่เมนู “The Journey set dinner” 8 คอร์ส ในราคาที่คุ้มค่า 3,200 บาท ++ ต่อท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม)
เมนู A la carte มีให้บริการตลอดทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ และยังมีรายการไวน์ ค็อกเทลหรือม็อกเทลจับคู่รับประทานกับอาหารไว้ให้บริการตามที่ทุกท่านชื่นชอบอีกด้วย
*ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อท่าน ยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10% รวมทั้งเมนูและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรืออีเมล์ [email protected]
Story : Nopmanee P.
Photo : Pol. Cap. Kittin A.
KinlakeStars.com
thai cuisine, fine dining, review, srabua, siam kempinski, winter menu 2018, molecula food
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด